สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ ช่วงปลายปีแบบนี้ สิ่งที่หลายคนรอคอยกันก็คือ “โครงการคนละครึ่งพลัส” ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมเปิดให้ ร้านค้าลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้า กันแล้วครับผม ในมุมมองผู้เขียนนะครับ โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากได้ดีที่สุดโครงการหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะช่วยผู้บริโภคประหยัดเงินในชีวิตประจำวันแล้ว ยังช่วยร้านค้าขนาดเล็กและผู้ประกอบการรายย่อยให้มียอดขายเพิ่มขึ้นจริงแบบจับต้องได้ครับ แต่ก่อนที่เราจะรีบเข้าไปกดลงทะเบียน “คนละครึ่งร้านค้า” กันนั้น ผมอยากจะชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจ 5 เรื่องสำคัญที่ควรรู้ก่อนลงทะเบียน เพื่อให้ร้านของเราไม่พลาดสิทธิ์ดี ๆ จากโครงการนี้ครับ เรื่องที่ 1: “คนละครึ่งพลัส” คืออะไร? ต่างจากคนละครึ่งเดิมอย่างไร เริ่มต้นกันที่พื้นฐานก่อนเลยครับท่านผู้อ่าน โครงการ “คนละครึ่งพลัส” คือการอัปเกรดจากโครงการ “คนละครึ่ง” ที่เราคุ้นเคยกันดี โดยยังคงแนวคิดเดิมคือ “รัฐบาลช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง ประชาชนจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง” แต่เพิ่มความยืดหยุ่นและขยายกลุ่มร้านค้าที่เข้าร่วมมากขึ้นครับ จากที่ผู้เขียนได้ชมนะครับ “คนละครึ่งพลัส” ไม่ได้จำกัดแค่ร้านอาหารหรือร้านขายของทั่วไปเท่านั้น แต่คราวนี้ขยายไปถึงร้านบริการ เช่น ร้านนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ขนส่งสาธารณะ เช่น แท็กซี่ สองแถว รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถโดยสารสาธารณะในเมือง เช่น รถไฟฟ้า รถไฟ เรือโดยสาร เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดแนวคิด “คนละครึ่ง” สู่ “ชีวิตประจำวันจริง” ของประชาชนทุกกลุ่มเลยครับ เรื่องที่ 2: ร้านค้าแบบไหน “สมัครได้” และแบบไหน “สมัครไม่ได้” อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากครับผู้อ่าน ก่อนจะรีบเข้าไปกดลงทะเบียน ต้องรู้ก่อนว่าร้านค้าของเรามีคุณสมบัติครบหรือไม่ ร้านค้าที่สามารถลงทะเบียนได้ต้องมีเงื่อนไขดังนี้: เจ้าของร้านต้องมี สัญชาติไทย ร้านค้าต้อง ไม่เป็นนิติบุคคล หรือไม่ใช่แฟรนไชส์ (ยกเว้นบางกรณี เช่น ร้านธงฟ้า หรือร้านค้าของสหกรณ์) เป็นร้านค้าที่มีการประกอบกิจการที่ตรวจสอบได้ ไม่เคยถูกระงับสิทธิ์ในโครงการภาครัฐที่ผ่านมา ร้านค้าที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้: ร้านแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ เช่น คาเฟ่แบรนด์ดัง บริษัทที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2567) ร้านที่เคยถูกระงับสิทธิเพราะฝ่าฝืนกติกาโครงการ ในมุมมองผู้เขียนนะครับ เงื่อนไขพวกนี้มีไว้เพื่อให้โครงการมุ่งช่วยเหลือ “ผู้ประกอบการรายเล็ก” จริง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมมาก เพราะกลุ่มนี้คือหัวใจของเศรษฐกิจชุมชนครับ เรื่องที่ 3: ขั้นตอนการ “ลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้า” เมื่อรู้แล้วว่าร้านของเรามีสิทธิ์สมัครได้ ทีนี้มาดูขั้นตอนแบบละเอียดกันครับ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง กรณีที่ 1: ร้านค้าเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการก่อนหน้านี้ ข่าวดีคือ — ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ครับผม เพียงแค่เข้าไปที่แอป “ถุงเงิน” แล้วกด ยืนยันเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ได้เลย แอป “ถุงเงิน” คือแอปสำหรับร้านค้าของธนาคารกรุงไทย ที่ใช้รับเงินจากลูกค้าผ่านโครงการของรัฐ กรณีที่ 2: ร้านค้าใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาก่อน สมัครเป็นร้านค้าผ่านเว็บ www.ถุงเงินกรุงไทย.com ดาวน์โหลดใบสมัครจาก www.คนละครึ่งพลัส.com กรอกใบสมัคร พร้อมแนบเอกสารประกอบ ได้แก่ บัตรประชาชน รูปถ่ายร้านค้า รูปถ่ายเจ้าของร้าน ยื่นใบสมัครที่จุดบริการภาครัฐที่กำหนด รอการอนุมัติ จากนั้นในแอป “ถุงเงิน” จะมีเมนู “คนละครึ่งพลัส” ปรากฏขึ้น ในมุมมองผู้เขียนนะครับ ขั้นตอนทั้งหมดไม่ซับซ้อนเลย เพียงแต่ต้องเตรียมเอกสารให้ครบและตรวจสอบความถูกต้องก่อนยื่นสมัครครับผม เพราะหากข้อมูลไม่ครบอาจทำให้การอนุมัติช้ากว่าที่ควร เรื่องที่ 4: ประโยชน์ของการเข้าร่วม “คนละครึ่งร้านค้า” ผู้อ่านทุกท่านครับ เชื่อไหมครับว่า โครงการนี้สร้างรายได้ให้ร้านค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30–50% เลยทีเดียว เพราะคนไทยจำนวนมากนิยมใช้สิทธิค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่ได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่มีร้านอาหารเล็ก ๆ ในตลาด พบว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” เดิม ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัด เพราะลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มค่าที่สุดในช่วงเงินเฟ้อแบบนี้” ประโยชน์หลัก ๆ ของร้านค้าที่เข้าร่วม ได้แก่: ยอดขายเพิ่มขึ้นจากการใช้สิทธิ์ของลูกค้า ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายด้านการโปรโมตร้านเอง เพราะรัฐบาลช่วยประชาสัมพันธ์ ร้านเล็ก ๆ ได้โอกาสเท่าเทียมกับร้านใหญ่ เพราะลูกค้าค้นหาร้านผ่านแอป “เป๋าตัง” ได้ เงินโอนเข้าบัญชีรวดเร็ว ปลอดภัย ผ่านระบบของกรุงไทย เสริมภาพลักษณ์ร้านให้ดูน่าเชื่อถือ เพราะเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ในมุมมองผู้เขียนนะครับ สิ่งเหล่านี้คือโอกาสทองที่ผู้ประกอบการรายย่อยไม่ควรมองข้ามเลยครับ เรื่องที่ 5: สิ่งที่ควรระวังและเคล็ดลับก่อนลงทะเบียน แม้โครงการนี้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีจุดที่ร้านค้าควรระมัดระวังเช่นกันครับ สิ่งที่ควรระวัง อย่ารับเงินสดแทนสิทธิ์ลูกค้า — เพราะถือว่าผิดกติกา อาจถูกระงับสิทธิ์ได้ อย่าปลอมใบเสร็จ หรือแกล้งกดใช้สิทธิ์เอง ห้ามบวกเพิ่มราคาสินค้าเฉพาะลูกค้าที่ใช้สิทธิ์ ตรวจสอบแอป “ถุงเงิน” อยู่เสมอ ว่ามีเมนู “คนละครึ่งพลัส” ปรากฏหรือไม่ เคล็ดลับสำหรับร้านค้าใหม่ ถ่ายรูปหน้าร้านให้ชัดเจน แสดงสินค้าหรือบริการให้ครบ ตั้งชื่อร้านในระบบให้น่าจดจำ เช่น “กาแฟบ้านสวน – คนละครึ่งพลัส” ติดป้ายประชาสัมพันธ์ว่า “ร้านนี้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งได้” ไว้หน้าร้าน ตอบลูกค้าด้วยความสุภาพ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ใช้สิทธิ์ผ่านแอป “เป๋าตัง” จากที่ผู้เขียนได้ชมนะครับ ร้านที่ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านี้มักได้รับความนิยมมากกว่า เพราะลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นมิตรและความน่าเชื่อถือครับผม มุมมองครีเอเตอร์: ทำไม “ลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้า” ถึงสำคัญในยุคนี้ ในฐานะครีเอเตอร์ที่ติดตามเรื่องเศรษฐกิจชุมชนมาตลอดนะครับ ผมอยากสะท้อนความเห็นส่วนตัวว่า โครงการแบบนี้มีผลดีมากกว่าที่หลายคนคิดครับ ในยุคที่ต้นทุนสูงขึ้นทุกด้าน ทั้งค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้า การมีช่องทางเพิ่มยอดขายผ่านนโยบายรัฐจึงถือเป็น “แรงกระตุ้นทางบวก” ให้ร้านค้าขนาดเล็กยังสามารถแข่งขันได้ในระบบเศรษฐกิจครับ อีกทั้งยังช่วยกระจายรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น — ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคได้ส่วนลด แต่ยังเกิดการหมุนเวียนของเงินในตลาดแบบมีประสิทธิภาพครับท่านผู้อ่าน ในมุมมองผู้เขียนนะครับ ถ้าภาครัฐยังคงพัฒนาโครงการนี้ต่อเนื่อง ควบคู่กับการให้ความรู้เรื่องการตลาดดิจิทัล ร้านค้ารายย่อยไทยจะเข้มแข็งขึ้นแน่นอนครับ สรุปส่งท้าย สรุปแล้วครับ ก่อนที่ร้านค้าจะ “ลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้า” อย่าลืมตรวจสอบให้ครบ 5 เรื่องสำคัญดังนี้ครับผม: เข้าใจว่าคนละครึ่งพลัสคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ตรวจสอบคุณสมบัติร้านค้าให้ครบก่อนสมัคร ทำความเข้าใจขั้นตอนลงทะเบียนในระบบ “ถุงเงิน” เตรียมตัวรับประโยชน์และยอดขายที่เพิ่มขึ้น ระวังข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ถูกระงับสิทธิ์ ในมุมมองผู้เขียนนะครับ โครงการนี้คือโอกาสทองสำหรับร้านค้าขนาดเล็กในยุคดิจิทัล ที่อยากเติบโตอย่างมั่นคงและปลอดภัยครับ สุดท้ายนี้ ผมอยากเชิญ ผู้อ่านทุกท่านครับ ที่เป็นเจ้าของร้าน หรือรู้จักผู้ประกอบการใกล้ตัว ลองแบ่งปันบทความนี้ต่อไปในกลุ่มโซเชียลของคุณด้วยครับ เพราะบางครั้ง “โอกาสดี ๆ” ก็เริ่มต้นจากการแชร์ข้อมูลที่ถูกต้องครับผม ภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก จาก Ngo Tuan Anh from Pixabay ภาพที่ 1 จาก saraj from Pixabay ภาพที่ 2 จาก THAM YUAN YUAN from Pixabay ภาพที่ 3 จาก Igor Ovsyannykov from Pixabay ภาพที่ 4 จาก Pexels from Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !