เราควรใช้ชีวิตยังไงให้สนุกสนานและมีความหมายมากกว่านี้ หากคุณอยากใช้ชีวิตสงบอยู่คนเดียว ไม่ต้องการโดดเด่น คุณอาจเหมาะที่จะเป็น “คนดี” ต่อไปก็ได้ แต่หากคุณอยากทำสิ่งใดให้เต็มที่ อยากประสบความสำเร็จสักอย่าง คุณต้องเลิกเป็น “คนดี” เดี๋ยวนี้และหัดทำตัว “ร้าย” ซะบ้าง เราไม่ได้จะให้คุณไปก่อกรรมทำชั่ว แต่หมายถึงให้ทำตัวเป็นคนประหลาดค่ะ คนประหลาดคือคนที่แม้อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่จะมองคิด และทำไม่เหมือนกับคนอื่น “คนที่ประสบความสำเร็จ” มักถูกมองว่า “ประหลาด” หรือ “ไม่เหมือนชาวบ้าน” ในสภานการณ์ที่คนธรรมดาอาจมองข้ามไป พวกเขากลับคิดล้ำหน้ากว่าคนอื่น เช่น ทำแบบนี้ไม่ได้ผลหรอก” ทำแบบนี้ไม่เห็นสะดวกเลย หรือ เราน่าจะทำแบบนี้มากกว่านะ ขอบคุณภาพจาก freepik.comแม้คนรอบข้างจะค้านว่า “อย่าเลย” “เสี่ยงนะ” ไม่มีประโยชน์หรอก หรือ ไม่รอดแน่ เขาก็ยังกล้าลงมือทำตามความคิดของตัวเองโดยไม่ใส่ใจเสียงค้านพวกนั้นเลย สมมุติว่าคุณทำงานในบริษัทขนาดย่อมแห่งหนึ่ง ลองจินตนาการถึงประธานผู้ก่อตั้งบริษัท คุณคิดว่าเขามีนิสัยยังไงเป็นสุภาพบุรุษไหมน่าเคารพหรือเปล่า เราเกรงว่าประธานบริษัทส่วนใหญ่จะ “ไม่เป็นแบบนั้น” คนที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการรูปแบบใหม่ ๆ ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นคนประหลาด ในทางกลับกัน “คนดี” มักสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไม่ได้ เพราะเป็น “คนธรรมดา” ค่ะ เพราะฉะนั้นหากคุณอยากเป็นคนที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ คุณต้องเป็นคนที่ถูกมองว่า “ประหลาดจัง” หรือ “ทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเลย” เราเองก็อยากเป็นคนแบบนั้น เพราะฉะนั้นสำหรับเราแล้ว คำว่า เป็นคนแปลกดีนะ หรือ ความคิดประหลาดจัง จึงเป็นคำชมมากกว่า ทำตัวให้คาดเดาได้ยาก ก่อนอื่น คุณต้องไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นและขยายขอบเขต ความคาดหวังให้กว้างขึ้น เช่น คนดีมักเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องความรัก อีกฝ่ายจึงมักเดาได้ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไรต่อไป หากนั่นเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายคาดหวังเช่นกันก็เรียกว่า “เข้ากันได้ดี” แต่บางครั้งก็อาจถูกมองว่า “เป็นคนดีก็จริง แต่น่าเบื่อจัง” ขอบคุณภาพจาก freepik.comในเรื่องความรักบางครั้งควรมีเซอร์ไพรส์ให้อีกฝ่ายคาดเดาไม่ถูกบ้างไม่ว่าจะเป็นของขวัญหรือแผนการเดต ถึงเราจะรู้สึกหวั่น ๆ อยู่บ้างว่า “เขาขจะคิดว่า “โห” ทำขนาดนี้เลยหรอ รึเปล่า จะรบกวนเขาไหมนะ หรือ เขาจะไม่ชอบรึเปล่า แต่ก็ควรลองทำดู เพราะอีกฝ่ายจะรู้สึกว่าเราตั้งใจทำเต็มที่เพราะ “อยากเห็นเขาดีใจ” ในหารทำงานก็เช่นกันค่ะ หากเราคาดเดากากระทำของอีกฝ่ายได้ก็ย่อมเกิดความสบายใจ แต่ขณะเดียวกันก็อาจถูกมองว่าน่าเบื่อ เพราะฉะนั้นเราต้องขยายของเขตความคาดหวังของอีกฝ่ายให้กว้างขึ้นต้องคิดคำพูดหรือคอมเมนต์ที่ทำให้คอยรอบข้างมองภาพลักษณ์ของตัวเราต่างไปจากเดิน เช่น สมมติว่าเราทำงานธุรกิจซ่อมแซมบ้าน หากผมไปดูบ้านแล้วพูดว่า “ส่วนนี้ยังไม่ต้องซ่อมแซมหรอกค่ะ หากมันพังแล้วค่อยติดต่อผมใหม่ก็แล้วกัน ลูกค้าคงนึกแปลกใจว่า “อ้าว ถ้าซ่อมก็ได้ค่าจ้างแท้ ๆ คนคนนี้ช่างเอาใจใส่และคิดถึงผลประโยชน์ของลูกค้าจริง ๆ หรือถ้าเราเป็นพนักงานเสิร์ฟ เราอาจจงใจไม่รับออเดอร์มากเกินไปและอธิบายลูกค้าว่า “เมนูจานนี้ค่อนข้างใหญ่ สั่งจานเดียวกิน 2 คนก็ได้ถ้าไม่พอแล้วค่อยสั่งเพิ่ม ลูกค้าย่อมรู้สึกว่า พนักงานคนนี้เอาใจใส่ลูกค้าดีจัง และอาจถามกลับว่า มีเมนูอะไรแนะนำบ้าง สรุปคือ เราต้องพูดหรือแสดงออกในสิ่งที่คนอื่นคาดไม่ถึงนั่นเอง ขอบคุณภาพจาก freepik.comอย่ามองเหมือนกับคนอื่น ๆ การใช้ชีวิตในโลกใบนี้ต่อไปด้วยกำลังตัวเองได้นั้น เราต้องสงสัยสิ่งที่ทุกคนปฏิบัติตาม ๆ กัน แล้วลองคิดวิธีหรือแผนการที่แหวกแนว เพราะหากทำสิ่งที่คาดเดาได้ง่าย ๆ เราก็ไม่อาจคิดสิ่งใหม่ ๆ ได้ ไม่ว่าจะในที่สาธารณะหรือในการประชุมก็ตาม เพราะฉะนั้นหากเรามีความคิดหักมุมจากที่อีกฝ่ายคาดการณ์ นอกจากจะทำให้ตัวเรามีเสน่ห์มากขึ้นแล้ว ยังสร้างความแตกต่างในโลกธุรกิจและเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย การจะทำแบบนั้นได้ เราต้องฝึกคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่พบเจอในชีวิตประจำวันให้ต่างจากคนอื่น เรามักจงใจปฏิเสธความเชื่อ ความคิดเห็น หรือ ทฤษฎีต่าง ๆ ในโลกนี้อยู่เสมอ เช่น “ต่อให้ไฟจราจรข้ามถนนเป็นสีแดงก็ข้ามได้” ยินดีต้อนรับสู่บริษัทมืด หรือ ใช้แรงงานผู้สูงอายุได้ ซึ่งเป็นความคิดที่คนส่วนมากคงไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ แต่เราจะลองยกเหตุผลอย่างเป็นธรรมขึ้นมาค้านดูค่ะ ตัวอย่าง กฏการใช้ทางเท้ามีขึ้นเพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบ ขอเพียงไม่ทำสิ่งที่ส่งผลเสียต่อสองเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เป็นไร ขอบคุณภาพจาก freepik.comการทำงานในบริษัทมืดต้องใช้กำลังอย่างมากและเป็นการฝึกความสามารถให้หลากหลาย จากการปรับเกรณ์อายุการจ้างคนเข้าทำงานให้สูงขึ้นพบว่ายอดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของประชาชนลดล เพราะฉะนั้นการจ้างผู้สูงอายุเข้าทำงานจะช่วยให้เจ้าตัวมีสุขภาพที่ดีและยังประหยัดงบประมาณค่ารักษาพยาบาลของรัฐอีกด้วยค่ะ เราเชื่อว่าการพูดหรือทำให้ผู้อื่นประหลาดใจได้ จะทำให้อีกฝ่ายมองว่าเราเป็นคนที่ “คาดเดาได้ยาก” หรือ เหลือความคาดหมาย และช่วยผลักดันให้ทำสิ่งใหม่ ๆ แต่การทำตัวประหลาดในที่นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระอย่างกอดตุ๊กตาขณะนั่งรถไฟไปทำงาน หรือ ส่งเสียงแปลก ๆ กลางดึกแล้วลุกขึ้นวิ่งไปรอบ ๆ “คนที่เลิกไม่ได้ คือ เลือกเดินทางที่ปลอดภัย แต่ไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนที่เลิกได้ ประสบความสำเร็จได้ด้วย “ทางของตัวเอง" ขอบคุณภาพปกจาก freepik.com