“หัวเว่ย” ชิปตามหลังคู่แข่งสหรัฐฯ แค่ 1 รุ่น

“พีเพิลส์ เดลี” หนังสือพิมพ์ของทางการจีน อ้างคำกล่าวของ “เหริน เจิ้งเฟย” CEO ของ “หัวเว่ย เทคโนโลยีส์” (Huawei) ที่ระบุว่า ชิปของบริษัทตามหลังคู่แข่งจากสหรัฐฯ อยู่เพียง 1 รุ่น แต่ขณะนี้บริษัทกำลังเร่งพัฒนาศักยภาพด้วยวิธีต่าง ๆ อาทิ การเชื่อมต่อของคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเพื่อทำงานร่วมกัน (cluster computing)

โดยในแต่ละปี “หัวเว่ย” ลงทุนราว 1.8 แสนล้านหยวน หรือ 2.507 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการวิจัยและพัฒนา และมองเห็นโอกาสที่ดีของชิปแบบคอมพาวนด์ (compound) ซึ่งเป็นชิปที่มีส่วนประกอบมากกว่า 2 ขึ้นไป

รายงานข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกมาในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนอยู่ระหว่างเจรจาการค้าอีกครั้งที่กรุงลอนดอน ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ต่อจีน

นับตั้งแต่ปี 2562 สหรัฐฯ ออกมาตรการจำกัดการส่งออกที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการทหารของจีน รวมถึงจำกัด “หัวเว่ย” และบริษัทจีนอื่น ๆ ในการเข้าถึงชิปที่มีความทันสมัยและอุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตชิป

CEO ของ “หัวเว่ย” ระบุด้วยว่า สหรัฐฯ กล่าวเกินจริงถึงความสำเร็จของ “หัวเว่ย” ซึ่งก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

ชิป AI ตระกูล “แอสเซนด์” (Ascend) ของ “หัวเว่ย” เป็นคู่แข่งกับผลิตภัณฑ์ของ “อินวิเดีย” (Nvidia) ผู้นำระดับโลกด้านชิป AI จากสหรัฐฯ ซึ่งชิปของ “อินวิเดีย” มีประสิทธิภาพมากกว่า “หัวเว่ย” แต่บริษัทถูกทางการสหรัฐฯ ห้ามขายชิปที่ทันสมัยให้กับบริษัทจีน ส่งผลให้ “อินวิเดีย” สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดจำนวนมากให้กับ “หัวเว่ย”

เมื่อเดือนเมษายน “หัวเว่ย” เปิดตัว “AI คลาวด์เมทริกซ์ 384” ที่เชื่อมโยงกับชิป “แอสเซนด์ 910C” จำนวน 384 ตัว ซึ่งบริษัทต่าง ๆ สามารถใช้ฝึกโมเดล AI ได้ และนักวิเคราะห์มองว่ามีความโดดเด่นเหนือชิป GB200 NVL72 ของ “อินวิเดีย” ในบางด้าน