เมื่อ FromSoftware ประกาศการมาถึงของ DLC ตัวแรกสำหรับ Elden Ring ภายใต้ชื่อ "Shadow of the Erdtree" แฟนๆ ทั่วโลกต่างตื่นเต้นกันอย่างมาก และเมื่อได้สัมผัสกับ DLC นี้ ผมต้องบอกว่ามันไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย เนื้อเรื่องและโลก: Shadow of the Erdtree พาเราไปสู่ดินแดนใหม่ที่ชื่อว่า "The Land of Shadow" ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ถูกปกคลุมด้วยเงามืดของ Erdtree ที่เสื่อมโทรม เรื่องราวในภาคเสริมนี้เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันลึกลับของ Queen Marika และความสัมพันธ์ของเธอกับ Miquella ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าสนใจที่สุดในเกมหลัก ขณะที่ผมสำรวจพื้นที่ใหม่นี้ ผมรู้สึกทึ่งกับการออกแบบโลกที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่ป่าที่เต็มไปด้วยเชื้อราเรืองแสงไปจนถึงปราสาทที่ทรุดโทรมซึ่งลอยอยู่เหนือทะเลเมฆ การค้นพบความลับและเนื้อเรื่องย่อยต่างๆ ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและอยากสำรวจต่อไปเรื่อยๆ ระบบการเล่น: FromSoftware ยังคงรักษามาตรฐานความท้าทายและความลึกของระบบการเล่นไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม Shadow of the Erdtree แนะนำอาวุธ, เวทมนตร์ และทักษะใหม่ๆ มากมาย ซึ่งเพิ่มความหลากหลายให้กับรูปแบบการต่อสู้ ผมประทับใจเป็นพิเศษกับระบบ "Shadow Arts" ใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้พลังของเงามืดในการต่อสู้และสำรวจได้ การรวมพลังนี้เข้ากับสไตล์การเล่นที่มีอยู่เดิมเปิดโอกาสให้สร้างตัวละครที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์มากขึ้น บอสและศัตรู: บอสใน Shadow of the Erdtree นั้นน่าประทับใจมาก ทั้งในแง่ของการออกแบบและความท้าทาย ผมต้องยอมรับว่าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเอาชนะบอสใหญ่ของ DLC นี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในบอสที่ยากที่สุดที่ผมเคยเจอในเกม FromSoftware เลยทีเดียว การต่อสู้นี้เรียกร้องให้ผมต้องใช้ทุกทักษะและกลยุทธ์ที่มี แต่เมื่อชนะได้ในที่สุด ความรู้สึกประสบความสำเร็จนั้นคุ้มค่ากับความพยายามทั้งหมด ศัตรูใหม่ๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเหล่าสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างมนุษย์และพืช ซึ่งทำให้นึกถึงผลงานของ H.R. Giger ผสมกับจินตนาการแบบดาร์กแฟนตาซี การต่อสู้กับพวกมันทั้งท้าทายและน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน กราฟิกและเสียง: ด้านภาพ Shadow of the Erdtree ยกระดับความงามอันน่าพิศวงของ Elden Ring ไปอีกขั้น ฉากหลังที่สวยงามตระการตาและการออกแบบตัวละครที่น่าทึ่งทำให้ผมต้องหยุดชื่นชมความงามของเกมนี้อยู่บ่อยๆ เสียงประกอบและดนตรีก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน บทเพลงใหม่ๆ ที่แต่งโดย Yuka Kitamura ช่วยสร้างบรรยากาศที่ทั้งน่าขนลุกแต่ยังคงความงดงามในด้านของศิลปะ เสียงประกอบต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มความรู้สึกสมจริงให้กับโลกของเกมได้เป็นอย่างดี ความยาวและคุณค่าในการเล่นซ้ำ: Shadow of the Erdtree มีเนื้อหาที่อัดแน่นพอๆ กับเกมเต็มรูปแบบเลยทีเดียว ผมใช้เวลากว่า 30 ชั่วโมงในการเล่นจบครั้งแรก และยังรู้สึกว่ายังมีอะไรให้ค้นพบอีกมาก การมีเอ็นดิ้งหลายแบบและความลับที่ซ่อนอยู่มากมายทำให้อยากกลับไปเล่นซ้ำอีกหลายรอบ ประสบการณ์ส่วนตัว: ตลอดการเล่น Shadow of the Erdtree ผมรู้สึกเหมือนได้กลับไปสัมผัสความรู้สึกตื่นเต้นและพิศวงเหมือนตอนเล่น Elden Ring ครั้งแรกอีกครั้ง มีช่วงหนึ่งที่ผมค้นพบทางลับซึ่งนำไปสู่พื้นที่ลึกลับใต้ดิน ที่นั่นผมได้พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ดูเหมือนจะเป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์และเห็ดยักษ์ การต่อสู้กับมันทั้งน่ากลัวและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน อีกช่วงที่ประทับใจคือตอนที่ผมได้พบกับ NPC ลึกลับที่ชื่อ "The Whispering Shadow" เธอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ถูกลืมของดินแดนนี้ และมอบภารกิจที่พาผมไปพัวพันกับแก่นของปริศนาใหญ่ของเกม การค้นพบความจริงทีละน้อยทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นนักสืบในโลกแฟนตาซีสุดแปลกประหลาด สรุป: Elden Ring: Shadow of the Erdtree เป็น DLC ที่ยอดเยี่ยมซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มเติมเนื้อหาให้กับเกมหลัก แต่ยังขยายและลงลึกในเรื่องราวและโลกของ Elden Ring ได้อย่างน่าทึ่ง ความท้าทายที่สมดุล, การออกแบบโลกที่น่าทึ่ง และเรื่องราวที่ลึกซึ้งทำให้ Shadow of the Erdtree เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับแฟนๆ Elden Ring และผู้ที่ชื่นชอบเกม RPG แนวดาร์กแฟนตาซี ด้วยเนื้อหาที่อัดแน่นและคุณภาพที่สูง Shadow of the Erdtree ไม่เพียงแต่ตอบสนองความคาดหวังของแฟนๆ แต่ยังเกินความคาดหมายในหลายๆ ด้าน มันเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำ DLC ที่มีคุณค่าและน่าจดจำ ซึ่งจะกลายเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ Elden Ring โดยรวม สำหรับผู้ที่ยังลังเลว่าควรซื้อหรือไม่ ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้ลองสัมผัสกับการผจญภัยครั้งนี้ Shadow of the Erdtree ไม่เพียงแต่เพิ่มชั่วโมงการเล่นที่น่าสนุก แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับโลกของ Elden Ring ที่จะทำให้คุณหลงใหลไปกับมันอีกครั้ง เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !