TKNออกสินค้าใหม่ เจาะตลาดในประเทศ ปั๊มยอดขายเติบโต

ข่าววันนี้ TKN ยอดขายยังโตต่อเนื่อง แม้ผลงานไตรมาสแรกถูกกระทบจากการล็อกดาวน์ในประเทศจีน และสงครามรัสเซียกับยูเครน ส่วนไตรมาส 2/2565 มีแผนออกสินค้าใหม่ๆ โกยยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นขณะที่คงเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 15-20%

นายจิระพงษ์  สันติภิรมย์กุล รองกรรการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 ประเมินว่ายอดขายจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ถึงเเม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีผลกระทบจากภาวะสงครามยูเครนและรัสเซีย ทำให้การส่งออกหยุดชะงักไปบ้างเเละช่วงเดือนมีนาคม 2565 ทางการจีนได้ประกาศล็อกดาวน์เนื่องจากยอดผู้ป่วยโควิด-19 ยังพุ่งสูง ทำให้กระทบยอดขายของบริษัทแต่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนยังคงมีสต๊อกสินค้าที่สามารถส่งขายได้ โดยบริษัทหวังว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม2565 สถานการณ์จะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนทิศทางการเติบโตในช่วงไตรมาสที่ 2/2565 ซึ่งมีวันหยุดเทศกาลหลายวัน รวมถึงอาจจะมีปัจจัยความไม่แน่นอนอย่างอื่นเข้ามากระทบได้ บริษัทจึงจะติดตามสถานการณ์ยอดขายเป็นรายเดือนอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะในปัจจุบันมากที่ เเละนอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะนำเสนอสินค้าใหม่ๆ เพื่อทำตลาดในประเทศไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทน้ำดื่มหรือขนมขบเคี้ยวเพื่อทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

*คงเป้าโต 15-20%

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของปีนี้ว่าจะสามารถเติบโตได้ประมาณ 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,983.1 ล้านบาท เดินหน้าผลักดันธุรกิจด้วยการทำกลยุทธ์ “Go Firm” ปรับองค์กรให้กระชับ คล่องตัว และรวดเร็วขึ้น (Lean) เพื่อลดต้นทุน ทำให้องค์กรปรับตัวและยืดหยุ่นรองรับแผนงานขยายธุรกิจใหม่และส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจเดิมให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น รวมถึงเดินหน้าเพิ่มยอดขายตลาดต่างประเทศ จากที่ได้เพิ่มตัวแทนจำหน่าย (Distributor) เพื่อทำตลาดจีน โดยมีช่องทางจำหน่ายครอบคลุมห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทาง e-Commerce ส่งผลให้ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจากประเทศจีนในไตรมาส 1/2565 เข้ามาไม่ต่ำกว่า 130-160 ตู้คอนเทนเนอร์

ด้านตลาดในสหรัฐอเมริกาประเมินว่ายังคงเติบโตได้ดี แม้มีแรงกดดันจากปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนทำให้ค่าระวางขนส่งสินค้ายังอยู่ในเกณฑ์สูง ซึ่งบริษัทได้อยู่ระหว่างหารือร่วมกับคู่ค้าเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดสหรัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย