ผมจะมาเล่าประสบการณ์พร้อมปรับเปลี่ยนความคิดในตัวของคุณให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ด้วยการอย่าให้ใครรู้เรื่องของเราเยอะ และจงเก็บเงียบไว้อย่าได้เปิดเผยมากเกินไป เพราะบางทีคุณอาจเป็นเหยื่อของสถานการณ์เหล่านั้นได้ครับ ผมเข้าใจคุณทุกคนนะครับ ว่าการได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับตัวเราให้กับคนรอบข้างได้รับฟังมันรู้สึกดี ไม่ว่าจะเป็นการโอ้อวด หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่จงระวังเอาไว้นะครับเพราะบางทีสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดมันจะตามมาด้วยความสัมพันธ์ที่เราเชื่อมโยงกับคนรอบข้าง หรือ มันอาจจะเกิดขึ้นทั้งๆที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ! อย่าให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อนะครับ ถ้าให้ผมเล่าเรื่องเกี่ยวกับ "ความเงียบ" ใช่ครับ มันเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง! ความเงียบสำหรับผมนั้น มันเป็นสิ่งที่ดีมากครับ ประสบการณ์ของผมครั้งหนึ่ง ผมไม่เคยที่จะเงียบเลยครับ ในเรื่องที่ตัวเองอยากจะพูดออกมาโดยที่ไม่ได้คิดก่อน เผลอๆอาจพูดเรื่องส่วนตัวในชีวิตออกไปมาก จนกลายเป็นคำวิพากษ์และวิจารณ์ที่ไม่น่าฟังได้ครับ พอผมได้ยินแบบนั้นแล้ว ผมก็รู้สึกได้เลยว่า อารมณ์และจิตใจของผมในตอนนั้นโดนกระทบเป็นอย่างมากเลยครับ จนครั้งนั้นผมก็ได้รู้ว่า เราไม่ควรพูดข้อมูลหรือสิ่งที่สำคัญในชีวิตเราออกมามากจนเกินไปซะหมด ซึ่งนั่นเขาอาจเอาเราไปพูดในทางที่ไม่ดีได้ครับ เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องไหนเลี่ยงควรเลี่ยงที่จะพูดออกมาดีกว่าครับ การเก็บเรื่องราวในชีวิตของเรานั้นมันจะทำให้คุณปลอดภัยในพื้นที่ส่วนตัวได้เยอะเลยหล่ะครับ สิ่งที่คุณทุกคนควรมี นั่นคือ "การฟังมากกว่าการพูด" การฟังนั้นมันช่วยให้คุณได้ครุ่นคิดและไตร่ตรองถึงสถานการณ์ได้มากขึ้น มากกว่าการพูดอีกครับ ถ้าสิ่งที่ผมนำมาเล่า แต่คุณไม่อาจเชื่อได้ ซึ่งนั่นคุณสามารถพิสูจน์มันได้ด้วยตัวของคุณเองนะครับ! การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่เพียงช่วยให้เราเรียนรู้จากคนอื่นได้อย่างเดียว แต่ยังช่วยให้เราลดโอกาสที่จะเปิดเผยตัวเองโดยไม่จำเป็นได้ครับ ข้อดีของการไม่เปิดเผยมากเกินไป ลดความเสี่ยงจากการถูกตัดสิน จากประสบการณ์ของผมนั้นในช่วงวัยมัธยมต้น ผมเคยคาดหวังจากคำตอบของคนอื่นว่าผมมีความสามารถในการวาดรูปได้โดยที่ไม่มีใครสอน ซึ่งนั่นผมเคยเอาไปเล่าบอกเพื่อนและพิสูจน์ต่อหน้าพวกเขาเหล่านั้น แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคืออะไร รู้รึ้เปล่าครับ? สวยนะเนี่ย น่าอิจฉาจัง มีคนสอนแน่เลยไม่เชื่อหรอก และอื่นๆ คำเหล่านี้จนเกิดเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรงขึ้น เธอก็วาดสวยนะ แต่มีคนวาดสวยกว่าเธออีกหว่ะ 5555 ใช่แล้วครับคำพวกนี้แหละที่ผมว่ามัน TOXIC ที่สุดแล้วแต่ผมก็ห้ามความคิดใครไม่ได้หรอกครับมันแล้วแต่ความชอบของคน แต่บางทีควรจะรักษาน้ำใจกันหน่อยก็ยังดีครับ นี่แหละครับประสบการณ์ของผม บางสิ่งที่คาดหวังมากเกินไป จนกลายเป็นความผิดหวังได้เช่นกัน การเปิดเผยชีวิตในเรื่องส่วนตัวมากเกินไป อาจนำไปสู่การถูกตีความผิด หรือแม้กระทั่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้าง การเก็บเรื่องบางอย่างไว้กับตัวเองช่วยป้องกันความรู้สึกผิดหวังจากการคาดหวังคำตอบหรือการยอมรับจากผู้อื่นได้ครับ ป้องกันการถูกเอาเปรียบ จากประสบการณ์ของผม เรื่องการถูกคนเอาเปรียบเป็นเรื่องที่ไม่น่ายอมรับมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ผมก็ยังโดนเอาเปรียบอยู่เมื่อครั้งในอดีต เคยมีครั้งนึงที่ผมทำงานโปรเจกต์กลุ่ม แล้วเพื่อนในกลุ่มบอกว่าเดี๋ยวมาช่วยกันทำนะ แต่พอถึงเวลาเท่านั้นแหละครับ ผมเป็นคนเดียวที่นั่งทำตั้งแต่ต้นจนจบ แถมวันพรีเซนต์ทุกคนยังขึ้นพูดเหมือนเป็นคนที่ช่วยกันทำหมดอีก คือแบบ...ไม่ได้โกรธอะไรนะ แต่มันรู้สึกเหนื่อยที่ไม่มีใครเห็นความพยายามของผมเลยอะ ข้อมูลที่เราเปิดเผยสามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการงาน การเงิน หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว การเงียบไว้ช่วยปกป้องเราจากการตกเป็นเหยื่อของคนที่มีเจตนาไม่ดี สร้างภาพลักษณ์ที่ลึกลับและน่าสนใจ จากประสบการณ์ของผมนั้น แต่ก่อนผมเคยเป็นคนที่พูดมากและร่าเริงอยู่ตลอดเลยหล่ะครับ5555 ตัดภาพมาที่ปัจจุบันสิครับผมมันคนละคนโดยสิ้นเชิงเลย ผมกับกลายเป็นคนที่เงียบ และพูดน้อย ร่าเริงไม่มากเท่าไหร่แต่จะเผยให้เห็นสำหรับบางคน! ผมมักจะใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลามากว่าการพูด จนคนรอบข้างเข้ามาคุยกับผมใช่ครับตอนนั้นผมมีคนคุย และผมเคยถามเขาไปว่า ตอนที่เธอเข้าหาเรา เธอคิดว่าเราเป็นคนแบบไหนหรอ สิ่งที่ผมได้รับรู้คืออะไร? ใช่ครับผมประดับใจกับคำพูดของเธอ จนผมนั่งขำและอมยิ้มอยู่ทั้งแบบนั้น "นายดูมีเสน่ห์มากเลยหล่ะ พูดน้อย นิ่งขรึมบางเวลาที่นายไม่พูดกับใคร นายเท่มากๆเลย" คนที่พูดน้อยหรือไม่เปิดเผยตัวเองมากนัก มักถูกมองว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์และน่าค้นหา ความลึกลับนี้สามารถช่วยสร้างความประทับใจแรกพบและความน่าสนใจในระยะยาวได้ ผมจะมาบอกเคล็ดลับสำหรับคุณทุกคนในเรื่อง "ฝึกเงียบยังไงให้เป็นนิสัย" 1. นั่นคือการฝึกฟังมากกว่าพูดครับ การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่เพียงแต่เป็นการช่วยให้คุณได้เรียนรู้จากคนอื่น แต่ยังช่วยลดโอกาสที่คุณนั้นจะเปิดเผยตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นออกไปครับ 2.คุณควรมีทักษะในการตั้งคำถามก่อนพูด ก่อนที่คุณจะเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวออกไปนั้น ให้ถามตัวเองก่อนนะครับว่า “สิ่งนี้จำเป็นไหมที่คุณจะต้องการบอกหรือไม่?” และ “ผลกระทบที่จะตามมาคืออะไร?” 3.หลีกเลี่ยงการแชร์ในโซเชียลมีเดียของตัวคุณเองออกไป จนมันมากเกินไป การโพสต์เรื่องราวในชีวิตส่วนตัวของคุณบนโลกออนไลน์นั้น ควรทำด้วยความระมัดระวังครับ เพราะข้อมูลเหล่านั้นมันอาจถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมในอนาคตได้ครับ 4.จดบันทึกแทนการพูด การจดบันทึกในสิ่งที่เรานั้นอยากจะระบายมันออกมาแทนการพูดให้คนอื่นรับรู้ ตรงนี้มันช่วยทดแทน และยังช่วยให้คุณรู้จักตัวเองได้มากขึ้นอีกครับ “ยิ่งเงียบยิ่งดี” ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองจนไม่ไว้ใจใคร แต่เป็นการเลือกเปิดเผยอย่างมีสติ และเก็บเรื่องที่สำคัญไว้ในพื้นที่ส่วนตัวของคุณ ความเงียบนั้นไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องตัวเรา แต่ยังเพิ่มคุณค่าให้ตัวตนของเราในสายตาผู้อื่นอีกด้วย การใช้ชีวิตอย่างมีความสมดุลระหว่างการพูดและการเงียบคือกุญแจสำคัญสู่ความสงบและความสำเร็จในระยะยาวครับ หากคุณชอบสาระดีๆโปรดติดตามรับชมเนื้อหาใหม่ๆได้ที่นี่เลยครับ ภาพจาก pixabay โดยthisismyurl ภาพจาก pixabay โดยLocies pixabay ภาพจาก pixabay โดยgeralt ภาพจาก pixabay โดยJupilu เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !