3 หนุ่มชาวประมง เรือหางยาวล่มทะเลสาบสงขลา ลอยคอนาน 2 ชม. ก่อนมีคนมาช่วย
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 1 มกราคม นายประจวบ ขุนไกร อายุ 55 ปี ชาว ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง เข้าพบกับ ร.ต.อ.สุรันต์ เบื้องบน รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปำ อ.เมืองพัทลุง เพื่อขอให้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล นำเรือออกช่วยเหลือกลุ่มชาวประมง 3 คน ที่นำเรือหางยาวออกหาปลาในทะเลสาบสงขลา แต่ถูกคลื่นซัดเรือจนจม โดยเหตุเกิดบริเวณลับ 4 ในทะเลสาบสงขลา แต่เรือท้องแบนของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไม่สามารถออกกลางทะเลสาบได้ เนื่องจากเป็นเรือขนาดเล็ก และในทะเลสาบมีคลื่นลมแรงและมีคลื่นสูง
สำหรับชาวประมงทั้ง 3 คน ที่เกาะเรือลอยคออยู่กลางทะเลสาบนั้น ทราบชื่อภายว่าหลังว่า นายธนาวันต์ บุราเลข อายุ 20 ปี ชาว ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง นายสุนทร นิลพาหุ อายุ 33 ปี ชาว ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง และนายสาธิต ขุนยัง อายุ 40 ปี ชาวบ้านในชุมชนบ้านออก ต.ลำปำ ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง
นายอโนทัย บุราเลข อายุ 53 ปี บิดาของนายธนาวันต์ และนายสะพรั่ง เนียมวงศ์ อายุ 49 ปี และญาติๆ อีก 2 คน ได้นำเรือหางยาวขนาดใหญ่ 2 ลำ ออกไปช่วยเหลือทั้ง 3 คน และสามารถช่วยเหลือมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทั้ง 3 คน อยู่ในสภาพที่อิดโรย เนื่องจากต้องลอยคอจับเรืออยู่กลางทะเลสาบสงขลานานกว่า 2 ชั่วโมง
นายธนาวันต์เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อตอนเย็นวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา พวกตนทั้ง 3 คน นำเรือหางยาวออกไปวางกัดในทะเลสาบสงขลา บริเวณลับ 4 ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยของฝูงโลมาอิรวดี เพื่อนำมาปลาเลี้ยงกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ ต่อมาในเวลาประมาณ 05.00 น. วันที่ 1 มกราคม 2564 พวกตนได้นำเรือหางยาวไปเก็บกัดที่วางไว้ ซึ่งได้ปลาชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมาก ขณะที่นำเรือเข้าฝั่งเป็นช่วงที่พายุพัดแรง คลื่นลมสูง ทำให้เรือหางยาวคว่ำจนต้องลอยคอจับแคมเรือไว้ แต่เดชะบุญที่ตนมีโทรศัพท์ที่อยู่ในกล่องพลาสติก จึงได้โทรหานายประจวบ จนมีพ่อและญาติๆ นำเรือหางยาวลำใหญ่ 2 ลำ ไปช่วยเหลือได้ดังกล่าวหลังจากที่ลอยคออยู่ในทะเลสาบนายกว่า 2 ชั่วโมง