ยกเลิกครูเวร! กล้องวงจรปิดเป็นสิ่งสำคัญ วอนจัดสรรงบลงมาช่วย
ผอ.โรงเรียนที่โคราช ขานรับมติ "ยกเลิกครูเวร" แต่ไม่มีงบจัดซื้อกล้องวงจรปิด วอนทางกระทรวงฯจัดสรรงบลงมาช่วย
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยกเลิกระเบียบครูต้องเข้าเวรรักษาการณ์ประจำสถานที่ราชการ ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ทำหนังสือด่วนถึงโรงเรียนทั่วประเทศ ยกเลิกคำสั่ง “ครูอยู่เวร” และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ บูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานฝ่ายปกครองและสถานีตำรวจ เพื่อวางแผนดูแลรักษาความปลอดภัยสถานศึกษาให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่
ซึ่งนายเชี่ยว ภักดีณรงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุ (ประชารัฐพัฒนา) ตำบลตลาด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 1 มีความเห็นในเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวยังกังวลใจอยู่ เพราะการอยู่เวรยามโรงเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากในโรงเรียนมีทรัพย์สินของทางราชการอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อตรวจตราพบเห็นชำรุดเสียหาย ก็สามารถแจ้งเพื่อดำเนินการซ่อมแซมได้อย่างรวดเร็ว หรือหากพบเห็นใครหยิบฉวยไปจะได้รีบติดตามตัว ฉะนั้นในช่วงหลังเลิกเรียนจะมีความสุ่มเสี่ยงเกิดเหตุได้ง่าย ถ้าไม่มีใครมาอยู่เวรยามเฝ้า หากเกิดเหตุขึ้นมา ทางโรงเรียนจะรับมือหรือแก้ไขได้อย่างไร ตนจึงเห็นว่า การมีครูเวรประจำการช่วงกลางคืน ยังมีความจำเป็นอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำสั่งหรือนโยบายลงมา ทางโรงเรียนก็น้อมรับและไปปรับใช้ตามความเหมาะสม โดยปกติ ส่วนใหญ่วันเสาร์-อาทิตย์ โรงเรียนจะจัดครูเวรมาประจำช่วงกลางคืน ซึ่งโรงเรียนบ้านบุ เป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีบุคลากรเกือบ 30 คน จะจัดครูเวรมาประจำช่วงวันเสาร์ อย่างน้อย 2 คน โดยภาคกลางคืนจะเป็นครูเวรผู้ชายอยู่คู่กับนักการภารโรง ซึ่งนักการภารโรงที่มาทำงานให้กับโรงเรียนตอนนี้ ก็ใช้เงินรายได้จากการจัดเก็บค่าเช่าสนามของโรงเรียน ที่เปิดเป็นตลาดนัดชุมชนทุกวันอาทิตย์ มาเป็นค่าจ้างนักการภารโรง เพื่อให้ช่วยดูแลทำความสะอาดและช่วยสอดส่องเข้าเวรยามดูแลความปลอดภัยให้กับโรงเรียน
ทำให้ครู นักเรียน บุคลากร และผู้ปกครองมีความอุ่นใจมากขึ้น อีกทั้งเมื่อมีคำสั่งให้ยกเลิกครูเวร แล้วให้ทางโรงเรียนประสานบูรณาการกับท้องถิ่นและตำรวจ ให้เข้ามาช่วยสอดส่องดูแลนั้น ทางโรงเรียนสามารถประสานขอความร่วมมือได้ทั้งตำรวจบ้านและชุมชน แต่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะต้องมาช่วยตอนไหน อย่างไร จึงอยากให้หน่วยเหนือออกคำสั่งลงมาให้ชัดเจน เพื่อให้แต่ละหน่วยงานที่มาบูรณาการร่วมกัน มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนถูกต้อง ว่าใครจะต้องดูแลหรือรับผิดชอบตรงส่วนไหน อย่างไร รวมทั้งอยากให้ตั้งงบประมาณมาช่วยดูแลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานช่วยเหลือโรงเรียน
ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด ทางโรงเรียนต้องระดมจัดซื้อมาติดตั้งกันเอง ซึ่งตอนนี้มีทั้งหมด 20 ตัว ชำรุดเสียหายไปบางส่วน เหลือใช้งานได้ 14 เท่านั้น และเริ่มเสื่อมสภาพบ้างแล้ว เมื่อไม่มีครูเวรมาช่วยตรวจตราช่วงกลางคืนกล้องวงจรปิดจึงมีความสำคัญอย่างมาก จึงอยากให้ทางกระทรวงฯสนับสนุนเรื่องจัดซื้อกล้องวงจรปิดด้วยจะได้นำมาติดตั้งโดยเร็ว เพื่อช่วยเป็นหูตาสอดส่องดูความปลอดภัยให้กับโรงเรียน
ภาพจาก ผู้สื่อข่าวนครราชสีมา