ความสุข เป็นสิ่งใครก็มองว่าต้องไขว่คว้าดิ้นรนต่อสู้ เพื่อให้ชีวิตมีความมั่นคง อุ่นใจ เมื่อนั้นถึงจะมีความสุข บางคนมองว่าความรักความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด จากครอบครัว จากเพื่อน จากแฟนอันแสนอบอุ่น นี่สิ...ถึงเรียกว่าความสุข บางคนมองว่าขอแค่ชีวิตมีความสงบ รอดพ้นจากการถูกเบียดเบียน เพียงเท่านี้ก็มีความสุขได้แล้ว จะเห็นว่าชีวิตมีมิติของความสุขอยู่มากมาย มุมที่มอง เพจที่มีผู้ติดตามกว่า 220,000 คน ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้จะมาเปิดเผยมุมมองของความสุขที่บางครั้งมันอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด ซึ่งครีเอเตอร์ได้อ่านและลองทบทวนถึงชีวิตของตัวเอง ซึ่งก็พบว่าแนวคิดเหล่านี้ฟังดูเรียบง่าย แต่เรากลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ลองมาดูกันว่าแนวคิดที่ว่านั้นมีอะไรกันบ้าง ? ความรู้ความประทับใจที่ได้ในมุมมองของครีเอเตอร์ได้เรียนรู้ว่าความสุขจริงๆไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่เราได้ทุกสิ่งที่เราต้องการ แต่มันอาจจะเกิดขึ้นจากการที่เรามองเห็นคุณค่าของสิ่งที่มองเห็นต่างหาก ได้เรียนรู้ว่าวันไหนที่เราเกิดอ่อนแอ ต้องการได้รับความช่วยเหลือ ก็แค่ยอมรับ ไม่ต้องแสร้งวางตัวเป็นคนเข้มแข็งตลอดเวลา เราต้องการความช่วยเหลือก็แค่บอกออกไป....ไม่จำเป็นต้องมีภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา ได้เรียนรู้ว่าการที่เราไม่รู้ก็บอกมาตรงๆว่าไม่รู้...เพราะไม่มีใครฉลาดไปเสียทุกเรื่อง ได้เรียนรู้ว่ารู้จักพูดว่าขอบคุณ เมื่อเราได้รับการช่วยเหลือ พูดว่าขอโทษ เมื่อเราได้ทำอะไรบางอย่างผิดพลาด ได้เรียนรู้ว่าปล่อยวางความสมบูรณ์แบบ ปล่อยวางความคาดหวัง ปล่อยวางความกังวล ไว้ใจคนรอบข้างให้มากขึ้น บางทีความสุขมันอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราคิดเสียอีก ยามที่เราทุกข์ ท้อ พบเจอปัญหา หรือเศร้าเสียใจจงทำตัวเหมือนพระอาทิตย์ที่ตกดินแล้วสามารถเริ่มต้นใหม่ในวันรุ่งขึ้น ได้เรียนรู้ว่าวินาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอาจไม่ใช่วินาทีที่เรายืนอยู่บนตำแหน่งของความสำเร็จ แต่มันอาจจะเป็นวินาทีที่เราลุกขึ้นจากความล้มเหลว แล้วก้าวเดินต่อไปต่างหาก ได้เรียนรู้ว่าบางครั้งเวลาแห่งความสุข มันไม่เคยคอยใคร จงอยู่ราวกับทุกวันคือวันสุดท้ายของชีวิต ได้เรียนรู้ว่าการคิดมาก คิดไปก่อน ก็เหมือนการบันทึกในจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนการปล่อยเวลาก็เหมือนกับการลบและเคลียร์ข้อมูล เราไม่มีพื้นที่พอกับความกลัดกลุ้ม เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการใส่ใจและปล่อยวางได้อย่างสมดุลพอ ได้เรียนรู้ว่าบางเรื่องราว บางเหตุการณ์ ไม่ว่าจะร้าย ดี มันเข้ามาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป สุขที่ยิ้ม เศร้าที่เจ็บ มันเป็นแค่ความรู้สึกที่เราต้องยอมรับ แต่อย่าไปยึดติดกับมัน เรื่องที่ดีก็จดจำไว้เป็นความสุข เรื่องที่ทุกข์ก็เลิกคิดวนซ้ำไปมาว่าเราผิดพลาดตรงไหนกันแน่ มันจะมาทำร้ายจิตใจโดยเปล่าประโยชน์ เราต้องคิดแก้ปัญหา ไม่ใช่คิดวนกลัดกลุ้มกับปัญหา ได้เรียนรู้ว่าทางไหนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทางไหนเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุด ไม่มีใครตอบกับเราได้ นอกจากตัวเราเอง ได้เรียนรู้ว่าขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้เรารู้คุณค่าของความสุข ขอบคุณความล้มเหลวที่ทำให้เรารู้คุณค่าของความสำเร็จว่ามันมีค่ามากมายขนาดไหน ขอบคุณความเศร้าที่ทำให้เรารู้ว่ารอยยิ้มมีความหมาย ขอบคุณบางคนที่เดินจากไปที่ทำให้เราเรียนรู้ถึงคุณค่าของการรักตัวเอง ได้เรียนรู้ว่าคนส่วนใหญ่มักให้ค่าในนาทีแรก ให้ความสำคัญในนาทีสุดท้าย ส่วนนาทีระหว่างนั้นคนเรามักชอบละเลย ได้เรียนรู้ว่าชีวิตคือการเรียนรู้ ก้าวเดินให้ปัญหาเป็นบททดสอบ ให้อุปสรรคเป็นบทเรียนเพื่อให้เราได้เติบโต ค่อยๆแก้ ค่อยๆทำ ค่อยๆทำความเข้าใจ ไม่มีใครสำเร็จตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว คนที่เก่งไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เขารู้จักเอาความผิดพลาดมาเป็นโจทย์แล้วหาคำตอบจากมัน ทั้งนี้เราต้องเป็นกำลังใจให้กับตัวเองในทุกๆวันเสมอ ได้เรียนรู้ว่า Comfort Zone ทำให้เรายึดติดกับความสบายจนสุดท้ายชีวิตเราก็หยุดนิ่ง ไม่เติบโต เหมือนต้นไม้ที่รอวันยืนต้นตาย ได้เรียนรู้ว่าอย่าให้สายตาดูถูกของคนอื่น คำพูดสบประมาทจากคนอื่นเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตของเรา เราเกิดมา หากแคร์สายตาคนอื่นจะทำให้เราเวลาลงมือทำอะไรแล้วไม่รู้จักคำว่าคุณค่าของการมีชีวิตเท่าที่ควร เราจะไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะเราเอาความสุขของตัวเองไปแขวนไว้ที่คนรอบข้าง อย่ากลัวใครจะมองเราอย่างไร ที่สำคัญกว่าคือ เรารักตัวเองมากพอหรือยัง ? ได้เรียนรู้ว่าคนเราทุกข์ เพราะเราให้ความสำคัญกับตัวเองไม่เป็น เพราะเราไม่เห็นคุณค่าและข้อดีของตัวเอง เราจึงต้องการให้คนอื่นมาช่วยยืนยันกล่าวถึงคุณค่าชีวิตของเราเอง ได้เรียนรู้ว่าความสุข ไม่ต้องพยายามมีก็ได้ เพราะยิ่งเราพยายาม อยากมีความสุขให้ได้ ก็แปลว่า เราเริ่มจะไม่มีความสุขแล้ว ได้เรียนรู้ว่าความสุขไม่ควรมีเงื่อนไขในตัวของมัน คนส่วนใหญ่มักสร้างเงื่อนไขของความสุข เช่น หากฉันได้เป็นข้าราชการ หากฉันได้ลิซ่ามาเป็นแฟน ฉันคงมีความสุขเหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่ลืมนึกไปว่า แท้จริงแล้วความสุขมาจากการไม่สร้างเงื่อนไขกับตัวเอง ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครก็พอแล้ว ความสุข เป็นสิ่งที่หลายคนนิยามแตกต่างกันไป และความสุขอยู่ใกล้ตัวเราเสมอ เพียงแต่ความทุกข์ที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นมันกลบเกลื่อนความรู้สึกให้เราจมทุกข์ จนยากที่จะเป็นสุขกับสิ่งที่เรียบง่ายได้ การจะแก้ปัญหาตรงหน้าเพื่อกำจัดทุกข์ได้ บางครั้งเราอาจต้องมีพื้นฐานในการที่จะมีความสุขกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้า ร้องไห้ได้ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ เรื่องไหนที่หนัก...ก็พัก ปล่อยวาง พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่ สิ่งที่เราทำในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการแบบฉับพลัน ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปอย่างมั่นคง เป็นความสุขแบบเก็บเล็กผสมน้อยก็เข้าท่าเหมือนกัน นี่คือมุมมองความสุขที่ครีเอเตอร์มองว่าน่าสนใจครับ เครดิตภาพภาพปก โดย tirachard จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย tirachardz จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย freepik จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ ครีมชั้นบน โดย พลอย เช่รีวิวหนังสือ ใจดีกับตัวเองบ้างก็ได้รีวิวหนังสือ ชีวิตสู้กลับแบบนี้ต้องทำไงรีวิวหนังสือ อย่าเอาใจไปติดกับอดีต อย่าโยนชีวิตไปอยู่ในอนาคต ทุ่มเทชีวิตให้กับสิ่งที่คุณเลือกรีวิวหนังสือ ภาระที่อมไว้ คายออกมาเถอะนะ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !