"ภาษีทรัมป์" ยังไม่พอ ? สหรัฐฯ โกยรายได้พุ่ง แต่ทำไมงบขาดดุลมหาศาล

รายรับเยอะ แต่รายจ่ายยังเยอะกว่า สหรัฐฯ ยังคงขาดดุลงบประมาณอย่างหนัก กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนกรกฎาคมที่่ผ่านมาของรัฐบาลทรัมป์ พุ่งขึ้นไปเกือบ 20% ไปแตะระดับที่ 2.91 แสนล้านดอลลาร์ แม้ว่ารัฐบาลจะโกยเงินเข้าประเทศได้อย่างมหาศาล จากการเก็บภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้นผ่านนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตาม โดยสาเหตุหลักมาจากรายจ่ายของรัฐบาลที่มากกว่ารายรับอย่างชัดเจน 

ทั้งนี้ เมื่อเจาะลงไปดูตัวเลขแค่เดือนกรกฎาคมนี้เดือนนี้ (2568) จะพบว่ามีการขาดดุลสูงขึ้นจากปีก่อนถึง 19% (หรือกว่า 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แบ่งเป็นรายรับของรัฐเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2% เป็น 3.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายจ่ายกลับพุ่งขึ้นถึง 10% ไปอยู่ที่   แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และนับเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเดือนกรกฎาคม 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าแม้ทรัมป์จะชอบกล้าวอ้างอยู่เสมอว่าเงินภาษีหลายพันล้านดอลลาร์กำลังไหลเข้าคลังสหรัฐฯ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภาระภาษีดังกล่าวกลับตกไปอยู่กับบริษัทผู้นำเข้าด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักผลักภาระต่อไปยังลูกค้าที่ซื้อของ หรือผู้บริโภคในอเมริกา ด้วยการปรับราคาสินค้าที่สูงขึ้น และเห็นได้ชัดเจนจากข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคล่าสุด ที่พบว่าราคาสินค้าอย่างเฟอร์นิเจอร์ รองเท้า และชิ้นส่วนยานยนต์ต่างมีราคาที่แพงขึ้น   แต่ไปถูกหักล้างด้วยราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงไป ทำให้ดัชนีโดยรวมไม่เร่งตัวขึ้นมา