มะม่วงเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยที่สำคัญอีกชนิด ในแต่ละปีประเทศไทยส่งออกมะม่วงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว มะม่วงเป็นไม้ทรงพุ่มขนาดกลางถึงใหญ่ หากเป็นต้นที่เกิดจากเมล็ดบางสายพันธุ์สามารถสูงได้ถึง 15 เมตร คนไทยเราจะคุ้นเคยกับมะม่วงกันเป็นอย่างดีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแทบทุกบ้านจะมีปลูกไว้หน้าบ้าน สวนหลังบ้าน หรือใกล้ ๆ บ้าน ด้วยความที่เป็นไม้ทรงพุ่มใบหนา ไม่ผลัดใบ ให้ร่มเงาได้ดี และที่สำคัญผลสามารถกินได้ทั้งผลดิบและผลสุก หรือสามารถนำไปแปรรูปได้อีกหลากหลาย เดิมทีจะให้ผลผลิตในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม แต่ปัจจุบันสามารถพัฒนาสายพันธุ์บางสายพันธุ์ให้ออกลูกได้ทั้งปี การเพาะปลูกและขยายพันธุ์ สามารถทำได้ทั้ง การเพาะเมล็ด การตอน การทาบกิ่ง หรือแม้กระทั่งการชำแบบควบแน่น หากต้องการได้สายพันธุ์ที่ตรงกับต้นแม่ควรเลือกวิธีการตอน การทาบกิ่ง และการชำแบบควบแน่น ส่วนวิธีที่นิยมก็จะเป็นวิธีการตอนและการทาบกิ่งเพราะจะให้ผลผลิตที่เร็วกว่าวิธีขยายพันธุ์แบบอื่น ๆ ส่วนการเพราะจากเมล็ดนั้นอาจมีการกลายพันธุ์ส่วนมากก็จะเป็นการเพาะไว้เพื่อทาบกิ่งเปลี่ยนยอดกันอีกที เพราะจะได้ต้นที่แข็งแรงและสายพันธุ์ที่ต้องการ มะม่วงอาจมีหลายท่านลังเล ว่าหากปลูกไว้หน้าบ้านจะดี หรือไม่ดีอย่างไรเพราะนอกจากประโยชน์ที่จะได้รับแล้ว ข้อเสียของต้นมะม่วงก็มีอยู่เหมือนกัน (หากนำมาปลูกไว้หน้าบ้านหรือใกล้ตัวบ้าน) ซึ่งจะขอจำแนกออกเป็นข้อ ๆ ดังนี้ ข้อดี 1, เป็นไม้ทรงพุ่มใบหนาไม่ผลัดใบ ให้ร่มเงาได้ดี 2, ผลกินได้ ทั้งผลสุกและผลดิบ เป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมของคนไทยมาตั้งแต่อดีต ชอบกินทั้งผลดิบและสุก 3, ขายได้ หากเป็นสายพันธุ์ที่มีความต้องการของตลาด ผลหากกินไม่ทันสามารถนำไปขายได้ และสามารถตอนขยายพันธุ์เพื่อขายกิ่งพันธุ์ได้ ข้อเสีย 1, เป็นไม้พุ้มใหญ่ใบหนาไม่ผลัดใบก็จริง แต่ก็เป็นไม้ที่มีใบร่วงเป็นประจำ ยิ่งเมื่อถูกโรคพืชหรือแมลงรบกวนจำนวนใบก็จะร่วงมากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน 2, เมื่อถึงฤดูออกดอก จะเป็นแหล่งรวมของศัตรูพืชต่าง ๆ หลัก ๆ ที่เจอเป็นประจำก็จะเป็น เพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วง ที่จะเริ่มมาตั้งแต่มะม่วงเริ่มออกดอกเพลี้ยตัวนี้จะถ่ายมูลออกเป็นน้ำหวาน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าในช่วงฤดูออกดอกของมะม่วง บางต้นที่เพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วงลง พื้นด้านล่างของมะม่วงจะเต็มไปด้วยน้ำหวานเหนียว ๆ และกลายเป็นสีดำในเวลาต่อมา คงไม่ดีแน่หากโดนกำแพงสีขาว ประตูสแตนเลส และรถยนต์ นอกจากเพลี้ยจั๊กจั่นแล้วยังมี เพลี้ยไฟและแมลงวันทองอีกด้วย ที่จะมาคอยสร้างปัญหาให้เราและมะม่วง 3, เป็นไม้มียางเหนียว หากโดนเสื้อผ้าและสิ่งของอาจทำให้เสียหายได้ และหากโดนผิวหนังบางคนอาจแพ้ได้ อาการแพ้สามารถทำให้ผิวหนังจุดที่โดนไหม้ได้ ข้อแนะนำ หากท่านใดต้องการจะปลูกไว้ในบริเวณใกล้ ๆ กับตัวบ้านเพื่อให้ร่มเงา และกินผล 1, ควรเลือกมะม่วงที่เป็นแบบต้นตอนกิ่ง เพราะเมื่อเวลาผ่านไปนานรากจะไม่รุนแรงแบบที่เกิดจากการเพาะเมล็ดอีกทั้งจะได้ผลผลิตเร็วกว่าต้นที่ปลูกจากการเพาะเมล็ดอีกด้วย 2, หมั่นตัดแต่งกิ่งเพื่อไม่ให้พุ่มมะม่วงดูทึบเกินไป และจะทำให้มะม่วงติดดอกได้ดีขึ้น ในการตัดแต่งกิ่งควรระมัดระวังน้ำยางไม่ให้โดนผิวหนังและเสื้อผ้า 3, ควรหายาป้องกันแมลงมาฉีดพ่นเพื่อไล่แมลงและควรจะเป็นแบบชีวภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย 4, หมั่นปัดกวาดใบที่ร่วงหล่นในแต่ละวัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปลิวไปรบกวนบ้านคนอื่น เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีไม้ที่ให้ร่มเงาและมีมะม่วงไว้กินโดยไม่ต้องซื้อแล้ว - ภาพหน้าปก และภาพทั้งหมดโดยเจ้าของบทความ -7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์