โบรกฯ คาดการเมืองทำตลาดหุ้นซึมต่อ เน้นหุ้นราคาลงมามาก-กำไร Q3 แกร่ง

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ส่องแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index ยังมีความผันผวนค่อนข้างสูงโดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1,200-1,223 จุด บรรยากาศการลงทุนวันนี้ยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุน รวมถึงเริ่มมีแรงกดดันจากการระบาดของ COVID-19 ที่เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยยะในสหรัฐฯและยุโรป ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับลงแรงและคาดกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบใหม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นไม่ทันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พ.ย. นี้ โดยเฉพาะการผ่านชั้นวุฒิสภา 

ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ยังคงต้องติดตามการชุมนุมอย่างต่อเนื่องว่าจะมีการยกระดับขึ้นอย่างไร เราจึงยังประเมินการฟื้นตัวของ SET Index ค่อนข้างจำกัด จึงยังเน้นกลยุทธ์เลือกการลงทุนในกลุ่ม Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการจำเป็น เช่น อาหารเครื่องดื่ม สื่อสารฯ อสังหาฯ โรงพยาบาล โรงเรียน และหุ้นที่คาดมีกำไร 3Q20 แข็งแกร่ง

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้น Domestic และ Defensive//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณแนวรับ 1,200 จุด

หุ้นเด่นเดือนต.ค. : ADVANC, GULF, ORI, SAPPE, SYNEX

หุ้นเด่นวันนี้:AP

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท 

• คาดกำไร 3Q20 ทำ New High +16% Q-Q, +127% Y-Y หนุนจากยอดโอนของทั้ง AP และ JV ที่เร่งตัวจากแนวราบที่ดีและเริ่มโอน 2 คอนโดใหม่ ส่วน Margin ดีขึ้นหลังชะลอทำโปรโมชั่น

• เราปรับประมาณการกำไรขึ้น 28% เป็น +31% Y-Y ปีนี้ ส่วนปี 2021 คาดชะลอ -16% Y-Y จากฐานสูง ด้าน Valuation ยังถูกมาก ซื้อขายที่ 2021PER เพียง 5.3 เท่าและคาดให้ Dividend Yield 7.3%

**ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดกรอบดัชนีฯ(26-30 ต.ค.63) 1190-1230 จุด 2 ตัวแปรหลัก คือ การชุมนุมในไทยและแนวทางแก้ไขปัญหาของสภาฯ หากคลี่คลายจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น รวมถึงงบเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังค้างในการพิจารณา มองตลาดดูจะเป็นบวกเล็กน้อย แต่การซื้อขายอาจเบาบางหรืออาจผันผวน ในตลาดต่างประเทศก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 พ.ย. กลยุทธ์  ติดตามสถานการณ์การชุมุนม พร้อมซื้อ/ขาย ถ้าสถานการณ์เปลี่ยน  เน้นหุ้นที่ราคาลงมามาก สลับเก็งกำไรหุ้นเล็ก-กลาง และเก็งงบ 3Q  

การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร  ทำให้ตลาดหุ้นยังซึมต่อ แต่ดัชนีฯลงมาก/น้อย ขึ้นกับสถานการณ์เป็นสำคัญ หากคลี่คลาย นักลงทุนพร้อมจะกลับเข้าซื้อหุ้น พร้อมทั้งตามดูการแก้ปัญหานี้ในสภาฯ 26-27 ต.ค

ด้าน Covid-19 ไม่มีพัฒนาการใหม่ๆ การทดลองวัคซีนส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงการทดลองกับคน (เฟส 2-3) การติดเชื้อรอบสองกระทบต่อการเปิดประเทศ และเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้าลง

นักลงทุนยังคงต้องดูความคืบหน้าของงบเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยิ่งใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตลาดจะมีความผันผวน

Event สำคัญๆ GDP 3q สหรัฐฯ(29) , ประชุม ECB(29) , ธปท.รายงานเศรษฐกิจรายเดือนของไทย(30) และ GDP 3q อียู(30)

#Strategy

ตลาดเป็นลบจากการชุมนุม การลงทุนยังต้องตามสถานการณ์รายวัน พร้อมซื้อ/ขาย ถ้าสถานการณ์เปลี่ยน  เน้นหุ้นที่ราคาลงมามากๆไว้ก่อน ขณะที่สลับเก็งกำไรหุ้นเล็ก-กลาง และเก็งงบ 3Q

พอร์ตหุ้นวันนี้ เราขาย EPG, CHG, NER แต่เพิ่ม BDMS เข้ามาใหม่  พอร์ตหลักจะมีหุ้น UTP (10%) ,TISCO(10%), TVO(10%), AH(10%), DCC*(10%) ส่วนพอร์ต KTBST SET50 Skynet มีหุ้น BDMS(10%), RATCH (20%), BBL(20%), LH*(10%) , GULF(10%)

#Strategy top picks

BDMS : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 20 บาท)  “ คาดกำไร 3Q20 ฟื้นตัวดีขึ้นจากผู้ป่วยในประเทศ”

- คาดกำไร 3Q20E ฟื้นตัวดีขึ้นจากผู้ป่วยในประเทศ 1,321 ล้านบาท (-54% YoY, +189% QoQ)  ราคาปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควร

- ผู้ป่วยในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวจาก 2Q20 และเราคาดว่า BDMS มีรายได้เสริม จากการเป็น alternative state quarantine จำนวน 250 ห้อง (ประมาณ 90 ล้านบาท ใน 3Q)

- เราคาดกำไรสุทธิปี 2020 ที่ 6.27 พันลบ. (-59% YoY)  และขยับขึ้นเป็น 9.07 พันลบ. โต 45% ในปี 2021

Technical : SYNEX, TKN