ย้อนมหากาพย์ยุคแห่งการทดสอบ "ระเบิดนิวเคลียร์" จุดชนวนปรมาณู 2,056 ลูก

ข่าวใหญ่ของโลกช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศสั่งให้กระทรวงการสงครามสหรัฐฯ หรือก็คือกระทรวงกลาโหมในชื่อเดิม ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง ด้วยเหตุผลว่า ประเทศอื่นก็ทำกัน หากสหรัฐฯ ไม่ทำจะตกขบวน

แต่ในความเป็นจริงคือ นับแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ไม่พบหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เลย 

ระเบิดนิวเคลียร์ ชื่อ ทรินิตี้ คือระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกที่ถูกชุดชนวนขึ้น ด้วยพลังทำลายล้าง 18.6 กิโลตัน ในวันที่ 16 กรกฎาคม ปี 1945

ผ่านไปไม่ถึงเดือน สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกในสงครามจริง ที่เมืองฮิโรชิมะ และนางาซากิของญี่ปุ่น สังหารผู้คนไปกว่า 100,000 คนแทบในทันที 

นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ที่อาวุธนิวเคลียร์ถูกใช้ในสงครามความขัดแย้งจริง ๆ แต่การทดสอบระเบิดปรมาณู มันยังไม่จบ 

นับแต่การทดสอบระเบิดทรินิตี้ หากไม่นับระเบิดปรมาณูที่ถูกทิ้งในญี่ปุ่น โลกมีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์รวมแล้ว 2,056 ครั้ง 

สหรัฐอเมริกา ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุด 1,030 ครั้งตามข้อมูลของ Arms Control Association 

รองลงมาคือสหภาพโซเวียต หรือรัสเซียในปัจจุบัน ที่ 715 ครั้ง โดยทดสอบครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 1949 ที่จุดทดสอบในคาซัคสถาน

สหราชอาณาจักรเป็นชาติที่ 3 ที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ในปี 1952 บริษัทชายฝั่งทางตะวันตกของออสเตรเลีย และจนถึงปี 2017 มีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปแล้ว 45 ครั้ง

ฝรั่งเศส ถือว่าทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ที่ 210 ครั้ง โดยทดสอบครั้งแรกในปี 1960

จีน อยู่ที่อันดับ 5 จำนวน 45 ครั้ง  โดยทดสอบครั้งแรกในปี 1964 ในแถบซินเจียง ตามด้วยเกาหลีเหนือ 6 ครั้ง อินเดีย 3 ครั้ง และปากีสถาน 2 ครั้ง 

ระเบิดนิวเคลียร์ลูกมหึมาที่สุดที่เคยมีการทดสอบบนโลกนี้ คือ สหภาพโซเวียตในปี 1961 กับระเบิดชื่อซาร์บอมบา ด้วยพลังทำลายล้าง 50 เมกะตัน เทียบเท่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกทิ้งในฮิโรชิมะ 3,300 ลูก

ดูเหมือนนานาชาติแข่งกันทดสอบนิวเคลียร์กันอย่างมากในยุคนั้น ก่อนที่การทดสอบจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ภายหลังสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน ลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ในปี 1996 

แต่ประเทศอื่น ๆ ก็ยังคงมีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อยู่ อาทิ ปากีสถานในปี 1998 และเกาหลีเหนือที่ทดสอบระเบิดปรมาณูใต้ดิน นับแต่ปี 2006 และครั้งใหญ่สุดในปี 2017 ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้ายที่มีบันทึกว่าโลกมีการจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์

คำประกาศของทรัมป์ ไม่เพียงจะพาอเมริกาไปสู่ยุคแห่งการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง ในรอบ 33 ปี แต่อาจบีบให้ชาติอื่น ๆ ตื่นตัวกับการทดลองนิวเคลียร์มากขึ้น  

คำถามต่อมาคือ มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยวอชิงตันโพสต์ อ้างอิงข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญที่ชี้ว่า หากสหรัฐฯ จะทำจริง จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 36 เดือนเพื่อเตรียมการ ก่อนจะทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ได้อีกครั้ง นั่นหมายความว่า ถึงตอนนั้น ทรัมป์ก็อาจไม่อยู่ในตำแหน่งแล้วนั่นเอง