รีเซต

สรุปสถานการณ์ไทย - กัมพูชา วันที่ 25 ก.ค. 68 เกิดเหตุปะทะตั้งแต่ช่วงเช้า

สรุปสถานการณ์ไทย - กัมพูชา วันที่ 25 ก.ค. 68 เกิดเหตุปะทะตั้งแต่ช่วงเช้า
TNN ช่อง16
25 กรกฎาคม 2568 ( 11:26 )
23

สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา วันนี้

สถานการณ์รุนแรงชายแดนไทย - กัมพูชา เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดย กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ได้เกิดการปะทะบริเวณ ช่องบกฯ และภูมะเขือ จ.อุบลราชธานี รวมถึงพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เวลา 04.00 น  

- 08.00 น. กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะด้วยอาวุธในหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวระยะยิงของอาวุธ ซึ่งครอบคลุมรัศมีระหว่าง 20 - 40 กิโลเมตร

พื้นที่ที่ถูกประกาศเป็น เขตเสี่ยงภัยสีแดง (ระยะยิง 0 - 20 กิโลเมตร) ได้แก่
- อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
- อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
ส่วนพื้นที่ใน เขตเสี่ยงภัยสีเหลือง (ระยะยิง 21 - 40 กิโลเมตร) ได้แก่
- อำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี
- อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ

ท่าทีจากนานาชาติกรณีไทย - กัมพูชา

- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องไทย-กัมพูชา ยุติการโจมตีในทันที เพื่อปกป้องชีวิตพลเรือน โดย ทอมมี สกอตต์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า เรากังวลอย่างมาก ต่อความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น ตลอดพรมแดนไทย-กัมพูชา เราเสียใจต่ออันตรายที่เกิดกับประชาชน สหรัฐฯ เรียกร้องหยุดการโจมตี ปกป้องพลเรือน และหาแนวทางสันติเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง

-  เอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวทางการทูตหลายคนว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ประชุมฉุกเฉินวันนี้ ว่าด้วยการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน การประชุมฉุกเฉินดังกล่าว จะเป็นการประชุมแบบปิดประตู คือไม่ให้นักข่าวเข้าฟัง ในเวลา 15.00 น. วันนี้ตามเวลาที่ยูเอ็น ตรงกับ 2.00 น. เช้าวันเสาร์พรุ่งนี้ (26 ก.ค. )

ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มต่อเนื่อง


นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานยอดผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ณ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568  เป็นพลเรือน เสียชีวิต 13 รายบาดเจ็บ 32 ราย รวม 45 ราย  ขณะที่ ทหาร เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 14 ราย รวม 15 ราย

ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงและสาธารณสุขยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง.

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง