อัพเดตราคาทอง+วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ อัพเดทราคาปัจจุบัน > ราคาทองคำโลก ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3770 - 3780 ดอลลาห์ /ออนซ์ และส่วนราคาทองคำในไทยนั้น อยู่ที่ 57300 - 57400 บาท / ออนซ์ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาจะแตกต่างกันในเรื่องของค่ากำเหน็จของแต่ละร้านท้อง ปัจจัยหลักที่จะกำหนดทิศทางราคาครึ่งปีหลังจนถึงต้นปีหน้า นโยบายอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ > Fed เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในกลางเดือนกันยายน 2025 ซึ่งลดต้นทุนการถือทอง ชนิดไม่มีดอกเบี้ย ทำให้แรงซื้อทองกลับมาเพิ่มขึ้น เมื่อความสนใจในดอกเบี้ยตราสารลดน้อยลงการลดลงของดอกเบี้ยตราสารหนี้จะหนุนให้ราคาทองสูงขึ้น เงินเฟ้อยังอยู่เหนือเป้าหมายหรือพูดง่ายๆว่าเกิดการชะลอตัวไม่แน่ชัด > หากเงินเฟ้อยัง คงสูงกว่าเป้า จะเป็นปัจจัยหนุนทองในฐานะที่เป็น Save Heaven แต่ถ้าเงินเฟ้อลดลงอย่างรวดเร็ว ตลาดอาจลดการถือทอง เพื่อไปถือทรัพย์สินที่เสี่ยงกว่าได้ ดังนั้น ความไม่แน่นอนทาง PCE/CPI จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดูกันอีกครั้งหนึ่ง ค่าเงินดอลล่าห์ อ่อน หรือ แข็ง > ทองคำจ่ายเงินเป็นดอลล่าห์ -ดอลล่าห์อ่อน เท่ากับ ทองถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น > และถ้าความต้องการหรืออุปสงค์เพิ่มขึ้นก็จะเท่ากับราคาทองก็จะขึ้นตาม ซึ่งเงื่อนไขการลดดอกเบี้ยจาก Fed นั้นจะเป็นเพียงการกดดอลล่าห์ให้อ่อนตัวในระยะสั้นเท่านั้น ความต้องการจากกองทุน / นักลงทุนสถาบัน และปริมาณเงินไหลเข้าตราสารหนี้ (ETF) > อย่างในกรณีปี 2025 ถ้ามีเงินไหลเข้าสินทรัพย์อย่างทองเป็นจำนวนมาก จะทำให้ทองมีราคาสูงขึ้น บวกกับแรงซื้อต่อเนื่องแล้ว ก็จะยังคงทำราคาให้กับทองสูงขึ้นไปอีก ความต้องการทองจาก ธนาคารกลาง อย่างที่เราได้ยินกันว่าในช่วงนี้ ธนาคารกลางแต่ละประเทศ พยายามกว้านซื้อทองคำเก็บเข้าคลังกันยกใหญ่ ซึ่งนั้นก็หมายความว่า ยังคงเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาทองคำให้สูงขึ้น ปัจจัยทางภูมิศาสตร์และความเสี่ยงตลาด > เหตุการณ์ความไม่แน่นอน (สงคราม / วิกฤติการเงิน) จะทำให้ทองกลายเป็นที่หลบภัยชั้นดี และก่อนที่จะเกิดแรงซื้อกลับอย่างฉับพลัน อุปทานการผลิต (เหมืองทอง) และต้นทุนการผลิต > การถูกจำกัดการผลิตและการขนส่ง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะทำให้ราคาทองพุ่งสูงได้เช่นเดียวกัน สรุปแล้ว ราคาทองยังอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร เมื่อเทียบกับในอดีต และตลาดมีแรงหนุนสำคัญจาก การลดดอกเบี้ยของเฟด อีกทั้งเงินเฟ้อที่ยังไม่แน่ชัด รวมทั้งการซื้อเก็บกักตุนทองของบรรดาธนาคารต่างๆทั่วโลก และเงินไหลเข้ากองทุนทอง ซึ่งปัจจัยทั้งหมดยังคงหนุนให้ทองอยู่ในขาขึ้น ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ดังนั้นควรจัดการบริหารความเสี่ยงและสัดส่วนการลงทุนในพอร์ตของตัวเองให้มากขึ้น เพื่อการกระจายความเสี่ยง ถ้าคุณมีทองอยู่แล้ว ให้ทบทวนสัดส่วนในพอร์ตที่เรามี อย่าให้มีมากเกินไปให้อยู่ในสัดส่วนที่เรายอมรับได้ หรือถ้าได้ผลตอบแทนดี ก็ควรที่จะทยอยขายออกทำกำไรได้บ้าง ถ้าใครคิดที่จะเข้าซื้อในตลาดทองคำ ก็ควรที่จะเข้าซื้อเก็บไว้เรื่อยๆเพื่อสะสม พยายามกระจายการลงทุน ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและภาษี คอยติดตามตัวเลขที่สำคัญรายเดือน > ดัชนีเงินเฟ้อ CPI/PCE, อัตราดอกเบี้ยจากเฟด และค่าเงินดอลล่าห์ ที่จะเป็นแนวทางให้กับราคาทองว่าจะขึ้นหรือลง ภาพประกอบบทความ โดย ผู้เขียน ภาพหน้าปกบทความ โดย ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !