แนะกลยุทธ์หุ้นไทย: SET รีบาวด์สั้นจับตา 1180 - หุ้นเด่น 'ITC, TU' น่าเก็บช่วงนี้

คุณธีรศักดิ์ ธนวรากุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ในรายการ WEALTH LIVE (29 พ.ค. 68) ว่า การผ่อนคลายเรื่องสงครามการค้าจากคำสั่งศาลสหรัฐฯ เป็นเพียงปัจจัยบวก ระยะสั้น ต่อตลาดหุ้นไทย (SET Index) คาดการรีบาวด์จะจำกัดที่แนวต้าน 1,180 จุด หากไม่ผ่านยังเสี่ยงลงไปทดสอบ 1,140 จุด หรือแนวรับสำคัญที่ 1,120-1,090 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นรายตัวที่ยัง Laggard และได้รับผลกระทบจากประเด็นภาษีรอบก่อนคือ ITC และ TU ส่วนทองคำเตือนระวังการหลุดแนวรับ 50 วันที่ $3,220 ซึ่งอาจย่อลึกถึง $3,100 ขณะที่ Bitcoin ยังมีโอกาสไปต่อถึง $120,000 แต่ต้องไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ $106,000
SET Index: รีบาวด์สั้น ต้าน 1180 - ระวังความผันผวนจากทรัมป์
คุณธีรศักดิ์มองว่า แม้จะมีข่าวดีระยะสั้นจากการที่ศาลสหรัฐฯ สั่งยับยั้งการใช้อำนาจประธานาธิบดีในบางมาตรการภาษี แต่ด้วยลักษณะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะมีความท้าทายคำสั่งศาลและอาจมีมาตรการใหม่ๆ ออกมา สร้างความผันผวนต่อตลาด ส่วนประเด็น Government Shutdown ของสหรัฐฯ ไม่น่ากังวลมากนัก ตราบใดที่ GDP สหรัฐฯ ยังเป็นบวก
- SET Index: แนวต้านสำคัญรอบนี้อยู่ที่ 1,180 จุด หากทะลุได้จะเป็นสัญญาณบวกชัดเจน มีโอกาสขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1,230 จุด แต่หากไม่ผ่าน 1,180 จุด ภาพยังเป็น Sideway Down และมีความเสี่ยงลงไปที่ 1,140 จุด หรือแนวรับสำคัญสำหรับเข้าซื้อที่ 1,120 หรือ 1,090 จุด
- SET50 Futures: ยังเป็นภาพ Sideway Down แนวต้าน 763-765 จุดยัง Short ได้ หาก Break 770 จุด ค่อย Open Long เป้าหมาย 800 จุด
- Window Dressing: ไม่คาดหวังมากนักในไตรมาส 2 เนื่องจากเป็น Low Season และมีความเสี่ยงจากฤดูฝนกระทบการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงสงครามการค้าที่ยังไม่คลี่คลาย
หุ้นเด่นน่าลงทุน: ITC, TU - กลุ่ม Laggard จากผลกระทบภาษี
ในช่วงที่ตลาดยังมีความไม่แน่นอนสูง คุณธีรศักดิ์แนะเลือกหุ้นที่ราคายัง Laggard และเคยได้รับผลกระทบเชิงลบจากมาตรการภาษี ซึ่งอาจฟื้นตัวได้เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลาย:
- ITC (ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น): ผู้จำหน่ายอาหารสัตว์ คาดราคามีโอกาสฟื้นตัวไปที่ 13.60-14.00 บาท และระยะกลางมีเป้าหมายใกล้ 16.00 บาท
- TU (ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป): ราคาหุ้น Sideway Down มานาน การชะลอมาตรการภาษีอาจทำให้หุ้นมีโอกาสฟื้นตัวเหนือ 11.00 บาท และอาจเป็นสัญญาณ Bottom Out
- กลุ่มที่ยังควรหลีกเลี่ยง:
- นิคมอุตสาหกรรม (AMATA): การฟื้นตัวระยะสั้นยังมีความเสี่ยงถูกขาย อาจเป็นลักษณะ Short Against Port
- อสังหาริมทรัพย์ (LH, AP, SPALI): ยังเป็นขาลง ผลกระทบจากแผ่นดินไหวและการตัดสินใจซื้อที่ชะลอตัว ยังไม่มีปัจจัยบวกที่น่าสนใจ ต้องรอสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ย 0.50-1% จึงจะเป็น Sentiment ที่ดี
- กนง.ลดดอกเบี้ย?: คาดว่า ยังไม่ลด เนื่องจากภาคส่งออกยังดี และต้องการเก็บกระสุนไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ทิศทางราคาทองคำ: ระวังหลุด $3,220 อาจย่อลึกถึง $3,100
- แนวรับสำคัญ: 3,220-3,230 ดอลลาร์ฯ (เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน) หากหลุดแนวรับนี้ สัญญาณเชิงลบจะชัดเจนขึ้น และมีโอกาสย่อตัวลึกไปที่โซน 3,100 ดอลลาร์ฯ หรือต่ำกว่านั้น (ถึง 3,000 ดอลลาร์ฯ) โดยให้น้ำหนักการ "หลุด" มากกว่า
- กลยุทธ์: ระมัดระวังการเข้าซื้อ หากหลุด $3,220 อาจพิจารณา Short หรือรอซื้อที่แนวรับลึกบริเวณ $3,100 หากไม่หลุดและกลับขึ้นไปยืนเหนือ $3,250 ได้ ค่อยพิจารณาเข้าซื้อระยะสั้น แนวต้านสำคัญอยู่ที่ $3,340 หากผ่านได้มีโอกาสไป $3,600 หรือ $4,000
Bitcoin: ลุ้น $120,000 - แต่ห้ามหลุด $106,000
- แนวโน้ม: ยังเป็นขาขึ้นหลังจาก Break New High รอบล่าสุด ควรจะวิ่งต่อได้
- เป้าหมาย: 120,000 ดอลลาร์ฯ
- แนวรับสำคัญ/ความเสี่ยง: 106,000 ดอลลาร์ฯ หากหลุดระดับนี้ สัญญาณขายจะมาและอาจลงแรง มีแนวรับถัดไปที่ 95,000 และ 86,000-88,000 ดอลลาร์ฯ