รีเซต

TTBจับตาโค้ง2กำไรดีด NIMสูงรับดอกเบี้ยขาขึ้น

TTBจับตาโค้ง2กำไรดีด NIMสูงรับดอกเบี้ยขาขึ้น
ทันหุ้น
18 กรกฎาคม 2566 ( 21:48 )
34

TTB แจ้งงบไตรมาส 2/2566 ลุ้นกำไรทะลุ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่สูงขึ้น ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และการขยายสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง พร้อมประเมินปี 2566 โตต่อเนื่อง ชี้หุ้นเด่นจากความชัดเจนของกำไรและผลตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่น่าสนใจ 5-6% แนะซื้อเป้า 1.83 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึงหุ้น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ว่า คาดว่า TTB จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรอง (PPOP) ที่ 9.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 

จากการเติบโตของรายได้ ประสิทธิภาพในด้านต้นทุนและคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ NII และ NIM น่าจะเพิ่มต่อเนื่องในท่ามกลางวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และการขยายสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ในด้านคุณภาพสินทรัพย์คิดว่า TTB จะสามารถรักษาหนี้ด้อยคุณภาพไว้ที่ประมาณ 2.7% พร้อมต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ (Credit Cost) ทรงตัวที่ 1.27%

 

*ชูปันผลสูง 5-6%

ทั้งนี้มีความมั่นใจในทิศทางการเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าซึ่งน่าจะปรับขึ้นในอัตรา 10.8% CAGR ในช่วงปี 2566-2568 โดยจะได้ปัจจัยผลักดันจาก NII และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ดีคาดว่าเป้า ROE ของ TTB ที่ 10% ใน 3-5 ปีข้างหน้าอาจเป็นเรื่องท้าทายมากถ้าธนาคาร จะพึ่งพาแต่การเติบโตของรายได้เพียงอย่างเดียวแทนที่จะเป็นการบริหารทุน ด้วยเหตุดังกล่าวคาดว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นมีความเป็นไปได้จากค่าเฉลี่ยที่ปรับขึ้นไปแล้วเป็น 50% ในปี 2565

 

เริ่มด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 1.83 บาท โดยให้เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคารจากความชัดเจนของกำไรและผลตอบแทนในรูปเงินปันผลต่อปีที่น่าสนใจ (5-6%) ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม

 

*ปี 66 คาดกำไรยังโตต่อ

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุถึง TTB ว่า คาดกำไรไตรมาส 2/2566 ที่ 4,202 ล้านบาท อ่อนตัว 2%QoQ แต่ยังเติบโต 22%YoY โดยคาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโตได้เล็กน้อย 1%QoQ โดยได้ผลบวจาก NIM ที่ปรับตัวขึ้นราว 4 bpsตามดอกเบี้ยลอยตัวบ้าง แต่อาจไม่มากเท่าธนาคารใหญ่ เนื่องจากธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อที่เป็นดอกเบี้ยคงที่ราว 30% ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคาดอ่อนตัวราว 5%QoQ โดยรายได้ค่าธรรมเนียมอาจอ่อนตัวลงทั้งจากค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคาร และค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุน ขณะที่อาจเห็นกำไรจากเงินลงทุนลดลงตามภาวะตลาดทุนด้วยเช่นกัน ด้านค่าใช้จ่ายสำรองหนี้คาดค่อนข้างทรงตัว QoQ ซึ่งอาจมีการเพิ่มสำรองส่วนเกินขึ้นอีกเล็กน้อย

 

สำหรับปี 2566 คาดรายได้ดอกเบี้ยจะปรับตัวดีขึ้นตาม NIM ที่ได้รับผลบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและกลยุทธ์ที่เน้นสินเชื่อในกลุ่ม High Yield มากขึ้น ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นบ้างในครึ่งปีหลัง แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ NIM และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยยังมีน้ำหนักมากกว่า โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 16,151 ล้านบาท (+14%YoY)

ยังคงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 1.55 บาท อิง PBV 0.67 เท่า โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาทำให้ไม่มี Upside จากราคาเป้าหมาย จึงปรับคำแนะนำเหลือเพียง “ถือ”

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง