"สตาร์บัคส์" ขายหุ้น ในจีน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ "Boyu" ธุรกิจท้องถิ่นเข้าถือหุ้น 60%

สตาร์บัคส์ประกาศว่าล่าสุดได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ในธุรกิจในประเทศจีนให้กับ Boyu Capital ในข้อตกลงที่มีมูลค่าธุรกิจ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Boyu จะถือหุ้น 60% และสตาร์บัคส์จะถือครองหุ้นส่วนที่เหลือ โดยคาดว่ามูลค่ารวมของธุรกิจในประเทศจีนจะสูงกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงใบอนุญาตที่อยู่ระหว่างดำเนินการในภูมิภาคนี้ และหุ้นที่เหลืออยู่ในธุรกิจ

“ความรู้และความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นอันลึกซึ้งของ Boyu จะช่วยเร่งการเติบโตของสตาบัคส์ในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราขยายธุรกิจไปยังเมืองเล็ก ๆ และภูมิภาคใหม่ ๆ เราจะร่วมกันเขียนบทต่อไปของประวัติศาสตร์อันยาวนานของสตาร์บัคส์ในประเทศจีน” ไบรอัน นิคโคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่นกล่าว

ปัจจุบันสตาร์บัคส์มีสาขาทั้งหมด 8,011 สาขาในภูมิภาคนี้ โดยบริษัทยังคงตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ครบ 20,000 สาขาในอนาคต ทั้งนี้สัดส่วนสาขาของสตาร์บัคส์กว่า 60% อยู่ในสหรัฐอเมริกา และจีน ซึ่งคาดว่าข้อตกลงนี้จะเสร็จสิ้นในไตรมาสถัดไปของสตาร์บัคส์

ขณะที่ในไตรมาสล่าสุด ยอดขายสาขาเดิม หรือ SSSG ทั่วโลกของสตาร์บัคส์พิ่มขึ้น 1% ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 0.5% และเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส ที่สตาร์บัคส์มียอดขายสาขาทั่วโลกโดยรวมเป็นบวก อย่างไรก็ตามยอดขายสาขาเดิมในจีนเพิ่มขึ้น 2% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.2% เล็กน้อย

สตาร์บัคส์มีประสบการณ์ธุรกิจในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน โดยเปิดสาขาแรกในกรุงปักกิ่งในปี 1999 และสาขาแรกในเซี่ยงไฮ้ในปี 2000 โดยตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2000 จนถึงปี 2017 ยักษ์ใหญ่กาแฟรายนี้ได้ขยายธุรกิจผ่านข้อตกลงการอนุญาตสิทธิ์กับพันธมิตรร่วมทุน โดยมุ่งหวังที่จะขยายธุรกิจในประเทศจีน ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นตลาดที่ยังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก

ก่อนหน้านี้ในปี 2017 สตาร์บัคส์ตัดสินใจที่จะดำเนินการทั้งหมดภายในองค์กรโดยซื้อหุ้นที่เหลือ 50% ของธุรกิจในจีน จากพันธมิตรร่วมทุนในราคา 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“สตาร์บัคส์ได้สร้างแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์ และเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับผู้บริโภคชาวจีนมาตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นร่วมกันของเราที่มีต่อความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของแบรนด์นี้ และโอกาสที่จะนำนวัตกรรม และความเกี่ยวข้องในท้องถิ่นที่ยิ่งใหญ่กว่ามาสู่ลูกค้าทั่วประเทศจีน” อเล็กซ์ หว่อง ผู้ถือหุ้นของ Boyu Capital กล่าว