"พิชัย"ย้ำเร่งปิดดีล FTA ไทย-อียูปี 68

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาในงาน EABC Luncheon: Advancing Trade, Investment, and FTAs in a Shifting Global Landscape จัดโดยสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจและการพาณิชย์(European Association for Business and Commerce: EABC) ว่า เศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ภาคการส่งออกของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยรัฐบาลมุ่งส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนในอุตสาหกรรมศักยภาพสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แผงวงจรพิมพ์ (PCB) และเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ AI ซึ่งช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

ทั้งนี้ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศ และการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุน และสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคการส่งออกของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจภูมิรัฐศาสตร์ และภาษีทรัมป์

ส่วนความคืบหน้าการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป (EU) การเจรจารอบที่ 6 เพิ่งเสร็จสิ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อยุติใน 3 บท ได้แก่ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การค้ากับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ส่งผลให้มีบทที่สรุปแล้วทั้งหมด 7 บท ขณะเดียวกันได้เริ่มหารือหัวข้อสำคัญอย่างการเปิดตลาดแล้ว

ความสำเร็จของการเจรจา FTA ไทย-EU ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ผมจึงขอความร่วมมือ และการสนับสนุนจากท่านเพื่อให้เราสามารถสรุปความตกลงฉบับนี้ได้ภายในสิ้นปีนี้ และสร้างผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว

สำหรับความตกลงการค้าเสรี ไทยมี FTA ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 14 ฉบับ ครอบคลุม 18 ประเทศทั่วโลก และได้เจรจาเสร็จสิ้นอีก 3 ฉบับกับศรีลังกา EFTA และภูฏาน