ช็อก! เจอติดเชื้อ 'โควิด' เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ หลังผู้ป่วยปกปิดไทม์ไลน์ ผู้ว่าตรังสั่งยาแรง
เจ้าหน้าที่วุ่น เจอติดเชื้อ 'โควิด' เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ หลังผู้ป่วยปกปิดไทม์ไลน์ กว่าจะไล่ได้ครบ ผู้ว่าตรังสั่งยาแรง จ่อดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ
วันที่ 28 เม.ย.64 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลตรัง/โฆษกฯ และ พญ.ทิพย์ลดา บุญชัย นายแพทย์ชำนาญการโรงพยาบาลตรัง/ฐานะรองโฆษกฯ ร่วมกันแถลงข่าว พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 23 ราย ยอดรวมสะสมระลอกใหม่ทั้งหมดจำนวน 94 ราย
นพ.ตุลกานต์ กล่าวว่า ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็นที่กลุ่มคลัสเตอร์ ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง พบผู้ป่วยโควิดทั้งหมด 13 ราย ภายในงานแต่งงานที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่มีคำสั่งจังหวัดประกาศ การสอบสวนโรคในกลุ่มนี้เป็นไปได้ช้า เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วย จึงทำให้ปรากฏผู้ป่วยในวันนี้แทนที่จะพบอย่างเร็วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อาจจะช้าไปบ้างแต่การควบคุมโรคได้กระทำแล้ว
กลุ่มถัดมาเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง มีผู้ป่วย 2 ราย เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายที่ 23 ที่มีปัญหาคือผู้ป่วยรายที่ 23 ไม่ได้ให้ไทม์ไลน์ที่มีรายละเอียดมากนัก ถัดมากลุ่มคลัสเตอร์ที่ อ.รัษฎา มีผู้ป่วย 6 คน เชื่อมโยงกับผู้ช่วย สสจ.อ.รัษฎา ที่ทำงานใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ร่วมงานและผู้ไปมาหาสู่กัน ตอนนี้ สสจ.ตรัง ได้ให้มีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก การติดเชื้อของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและบุคลากรทางแพทย์ทำให้สูญเสียกลุ่มที่ทำงานไป ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าไปดูแลแล้ว
ส่วนที่ อ.วังวิเศษ พบผู้ป่วย 2 ราย เป็นพ่อลูกกัน พบที่เออาร์ไอคลินิก เป็นคลินิกโรคทางเดินหายใจส่วนบน ผู้ป่วยทั้ง 2 รายได้เดินทางมารักษาอาการไข้ มีอาการไอ เจ็บคอ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. จนเมื่อวานนี้หายใจเหนื่อยมากขึ้น แพทย์ รพ.วังวิเศษได้ทำการสวอบพบผลเป็นบวก จากการสอบสวนโรคต้องย้อนไปต้นเดือน เม.ย. พบจุดที่จะนำเชื้อมาทั้งหมด 2 จุด คือผู้ป่วยนั่งรถตู้จาก ม.ทักษิณ จ.สงขลา และเข้า จ.ตรัง เมื่อวันที่ 6 เม.ย.
จุดที่ 2 มีญาติมาเยี่ยมที่บ้าน เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนไทม์ไลน์ค้นหาต้นตอของโรคต่อไป ส่วนประเด็นวงคลัสเตอร์ของบริษัทขายประกันแห่งหนึ่ง มีผู้มาลงทะเบียนตรวจสอบโรคทั้งหมด 192 ราย แบ่งเป็นผู้ที่มีสัมผัสเสี่ยงสูง 35 ราย ตอนนี้ได้ทำสวอบทั้งหมดแล้วต้องรอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง ทั้งนี้แนะนำให้กลุ่มคนวัยทำงานถ้าเป็นไปได้ควรเวิร์คฟรอมโฮม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายและนำโรคไปติดต่อกับเด็กเล็ก
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการที่พบผู้ป่วยโควิดระลอกใหม่ของ จ.ตรัง ที่พบมีผู้ป่วยนำมาจากภายนอก ตอนนี้เกิดการระบาดในจังหวัดแล้ว อย่างบางอำเภอพบปัญหาผู้ป่วยเปิดเผยข้อมูลไม่หมด หรือไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วย ทำให้การสอบสวนโรคเป็นไปอย่างล่าช้าและทำให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดติดเชื้อไวรัสโควิด ตนได้หารือกับทีมกฎหมายของจังหวัดแล้วว่า ใครก็ตามที่ปกปิดข้อมูลจะดำเนินคดีตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ศ.2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท จากนี้ทางจังหวัดจะดำเนินการเข้มขึ้น ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงกักตัวคือการกักตัวไม่ออกไปข้างนอก เพื่อป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด
ขอความร่วมมือให้ประชาชนชาวตรังได้ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัด อาทิ การห้ามข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หน่วยงานภาครัฐเดินทางไปยังจังหวัดกลุ่มเสี่ยง 18 จังหวัดและจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 300 คน ขึ้นไป ขอความร่วมมือประชาชนออกจากบ้านหรือเคลื่อนที่ให้น้อยที่สุด ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และเว้นระยะห่างระหว่างกัน และรวมไปถึงการขอความร่วมผู้ที่มีความเสี่ยงให้ข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในวงกว้าง
ขณะเดียวกันบรรยากาศที่ รพ.รัษฎา อ.รัษฎา จ.ตรัง เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไร้ผู้เข้ามาใช้บริการ และได้มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ รวมทั้งรถฉุกเฉิน และภายในและนอกอาคารทั้งหมด หลังจากที่ มีการประกาศงดให้บริการทุกแผนก เว้นแต่ “ห้องฉุกเฉิน” หลังจากพบผู้ช่วยสาธารณะสุขอำเภอรัษฎา และบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อรวม 6 ราย และรอผลตรวจยืนยันอีกกว่า 12 ราย รวมทั้งมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องเร่งตรวจหาเชื้อกว่า 20 คน