สสจ.เชียงราย มอบเหรียญครูบาเจษฎา-ผ้ายันต์ ให้จนท.พกติดตัวระหว่างอาสาช่วย ผู้ป่วยโควิดสมุทรสาคร

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชย์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานในการส่งเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ จ.เชียงราย ให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่สู้ภัยโควิด-19 ที่ จ.สมุทรสาคร โดยประกอบไปด้วยบุคลากรจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ รวมจำนวน 49 คน จัดแบ่งทีมออกเป็น 8 กลุ่มๆ ละ 6-7 คน ทั้งหมดจะค่อยๆ ทะยอยเดินทางออกจาก จ.เชียงราย ในวันเดียวกันนี้โดยชุดแรกจำนวน 2 กลุ่ม รวมจำนวน 12 คน เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่ จ.สมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 8-13 กุมภาพันธ์ และกลุ่มอื่นๆ จะทะยอยเดินทางตามกันต่อไป

ซึ่งก่อนที่จะมีการออกเดินทางทางสำนักงานสาธารณสุข(สสจ.)เชียงราย ได้มอบชุดสนามและเหรียญพระครูบาเจษฎา จิรสีโล จาก อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะเดินทางไปเพื่อเป็นสิริมงคล ต่อมานายประจญได้นำผ้ายันต์พระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปร่วมมอบให้กับทุกคนอีกด้วยซึ่งสร้างความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะร่วมเดินทางไปในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จะนำคณะผู้บริหารส่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดให้ออกเดินทางไปด้วยรถตู้ของสาธารณสุขเพื่อไปยัง จ.สมุทรสาคร ต่อไป

นายประจญ กล่าวว่า จ.เชียงราย ถือเป็นจังหวัดแรกๆ ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยช่วงต้นปีมีผู้ติดเชื้อจำนวน 9 รายและสามารถยับยั้งเอาไว้ได้รวมทั้งมีการซ้อมแผนรองรับกรณีมีการระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านครั้งใหญ่ที่ อ.แม่สาย ขณะที่พื้นที่ภาคลางยังไม่มีการดำเนินการเรื่องนี้ กระทั่งเดือน พ.ย.-ธ.ค.2563 ก็พบผู้ติดเชื้อจากประเทศเพื่อนบ้านจนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วและบางพื้นที่ก็ถึงกับรังเกียจไม่ให้ชาวเชียงรายเดินทางไปเยือน ทั้งๆ ที่โดยข้อเท็จจริงแล้วพบผู้ติดเชื้อจากชายแดนจำนวน 65 คนและเป็นคนเชียงรายที่ติดจากกลุ่มหญิงสาวที่ไปข้ามไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านเพียงแค่ 1 คน ที่เหลือเป็นผู้มาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ แต่ จ.เขียงราย เราไม่ปล่อยให้กลับไปภูมิลำเนาทันทีแต่ให้อยู่รักษาที่ จ.เชียงราย จนหายทั้งหมดและไม่มีการสูญเสียเลยจากนั้นก้ให้กลับบ้านได้ ดังนั้น จ.เขียงราย จึงมีประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และขณะนี้เรากำลังส่งบุคลากรสาธารณสุขที่มีประสบการณ์ให้ไปช่วยเหลือที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งก็ถือเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในสถานที่จริงที่มีการระบาดหนักและถือเป็นความเสียสละและได้บุญเป็นอย่างยิ่ง

นายวิสุตร์ เสน่หา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เทิง กล่าว่าตนได้อาสาจะเดินทางไปร่วมปฏิบัติภาระกิจที่ จ.สมุทรสาคร เพราะต้องการนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยเหลือประชาชนชาวไทยที่กำลังประสบเหตุอยู่ ซึ่งตนก็ได้เตรียมพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ และทบทวนองค์ความรู้ต่างๆ มาเป็นอย่างดี.