อินโดฯ เล็งเก็บภาษีส่งออก “ทองคำ” ปี 69

“เฟบริโอ คาคาริบู” ผู้อำนวยการสำนักงานยุทธศาสตร์การคลัง กระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปแผนจัดเก็บภาษีสำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ทองคำ ซึ่งจะมีอัตราอยู่ระหว่างร้อยละ 7.5-15 และคาดว่าน่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2569

เขากล่าวในระหว่างประชุมรัฐสภาว่า นโยบายภาษีนี้ได้รับการออกแบบให้กำหนดอัตราภาษีที่สูงขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ และกำหนดอัตราภาษีต่ำลงสำหรับสินค้าแปรรูป เพื่อช่วยส่งเสริมการแปรรูปทองคำภายในประเทศ

ยกตัวอย่างการกำหนดอัตราภาษีสำหรับทองคำแท่งหรือก้อนทองที่มีโลหะอื่น ๆ เจือปนในอัตราที่สูง ส่วนอัตราภาษีสำหรับทองคำแท่งที่ผ่านการสกัดแล้วจะต่ำกว่า

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในตลาดโลกจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนในการกำหนดภาษีส่งออกผลิตภัณฑ์ทองคำด้วย

ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีปริมาณทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยผลิตทองคำประมาณ 160-200 ตันต่อปี ส่วนใหญ่ผลิตผ่านรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ แต่ทองคำที่ขุดได้ส่วนใหญ่ยังคงถือครองหรือซื้อขายในต่างประเทศ

ในปี 2567 เพียงปีเดียว อินโดนีเซียส่งออกทองคำมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นำเข้าทองคำกลับคืนมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ 

ผู้อำนวยการสำนักงานยุทธศาสตร์การคลัง ระบุด้วยว่า แผนของรัฐบาลที่จะจัดเก็บภาษีส่งออกถ่านหินยังอยู่ระหว่างการหารือ