รีเซต

3 โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นไทยภาคบ่าย แนะกลยุทธ์ลงทุน

3 โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นไทยภาคบ่าย แนะกลยุทธ์ลงทุน
ทันหุ้น
26 กรกฎาคม 2566 ( 13:30 )
39

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่เริ่มชะลอความร้อนแรงหลังจากตอบรับความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ระยะถัดไปต้องติดตามรายละเอียดที่รูปธรรม นอกจากนี้เชื่อว่าตลาดให้ความสนใจไปที่ผลการประชุมเฟด ที่เชื่อว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มาที่ 5.50% แต่จับสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดต่อไป 

 

ด้านปัจจัยในประเทศยังขาดความชัดเจนต่อประเด็นการเมืองหลังโหวตเลือกนายกฯถูกเลื่อนจากวันที่ 27 ก.ค. 66 เพื่อรอรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องวินิจฉัยการใช้ข้อบังคับการประชุม 41 ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ่มเจริญรัตน์ ภายใต้สภาพแวดล้อมข้างต้นทำให้ดัชนีหุ้นไทยบ่ายนี้แกว่งออกข้างตามกรอบ 1,520-1,530 จุด 

 

ส่วนประเด็นอื่นๆที่ติดตามวันนี้การรายงานงบ SCC , การรายงานส่งออก/นำเข้าไทยเดือน มิ.ย. (คาดว่าจะออกภายใน 26-27 ก.ค.)คาดหดตัว 7.3%yoy / หดตัว 7.75%yoy ตามลำดับ

 

โดยกลยุทธ์การลงทุนหลักยังชอบหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นของจีนชอบ PTTEP,  SCC และ SCGP หุ้นกำไรเติบโตดีอย่าง ADVANC และ SIRI 

 

บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนทางการเมืองและใกล้วันหยุดยาว รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตรจะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองเพิ่มเติม โดยภาคบ่ายดัชนีมีแนวรับที่ 1,515 จุด และแนวต้านที่ 1,530 จุด 

 

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้า ดัชนีทยอยปรับตัวลงราว 3 จุด เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงปัจจัยต่างประเทศอย่างการประชุมเฟด และธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB นอกจากนี้กระทรวงการคลัง ได้มีการปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้เหลือ 3.5% เหตุนักท่องเที่ยวจีนน้อยกว่าคาด โดยเช้านี้มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดที่ 1,523.37 จุด ลบ 2.93 จุด หรือ 0.19% มีมูลค่าการซื้อขาย 18,105 ล้านบาท 

 

ด้านบล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีภาคเช้าแกว่งตัวออกด้านข้าง และปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยมองว่ามาจากประเด็นทางการเมืองที่มีความยืดเยื้อหลังประธานสภา มีคำสั่งงดประชุมโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค. นี้ เพื่อรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงเข้าใกล้ช่วงวันหยุด อีกทั้ง ครม. อนุมัติวันหยุดราชการเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ยิ่งจะทำให้กระบวนการราชการล่าช้าขึ้นไปอีก ขณะที่ สศค.ปรับลดประมาณการจีดีพี ปี 2566 มาอยู่ที่ 3.5% ลดลงเล็กน้อยจากเดิมที่ 3.6% โครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนแปลงไป คือสัญชาตินักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนจากจีนเป็นมาเลเซีย ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวลดลง 

 

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่การประชุมเฟด คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% โดยกลยุทธ์การลงทุน ดัชนีแกว่งตัวออกด้านข้าง ระหว่างวันให้เน้นยืนที่แนวรับที่ 1,520/1,505 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,540/1,546 จุด 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง