ไปถึง ไม่ได้แปลว่าได้เข้า ไทยครองอันดับ 1 ถูกปฏิเสธเข้าญี่ปุ่นมากที่สุดในปี 2024

ประเทศไทยเป็นแชมป์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก กับการเป็นอันดับ 1 ประเทศที่ถูกปฏิเสธเข้าเมืองญี่ปุ่นมากที่สุดในปี 2024

โดยข้อมูลจาก Immigration Service Agency ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าในปีที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าญี่ปุ่นมากถึง 7,879 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากจากปีก่อนถึง 28.5%

หากมาดูรายประเทศนั้นจะพบว่า ประเทศไทยนั้นติดในอันดับ 1 ถูกปฏิเสธที่ 1,415 คน หรือคิดเป็น 18% ของชาวต่างชาติทั้งหมด อันดับ 2 ของประเทศจีน 802 คน อันดับ 3 ศรีลังกา 686 คน อันดับ 4 อินเดีย 647 คน และอันดับ 5 ปากีสถาน 645 คน

สำหรับเหตุผลที่ชาวต่างชาติถูกปฏิเสธเข้ามากที่สุดคือ มีวัตถุประสงค์ในการเข้าเมืองที่น่าสงสัย ที่ 83.9% รองลงมาคือเหตุผลอื่นๆ 8.2%

รายงานชี้ว่า แนวโน้มจำนวนคนที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนผู้เข้าเมืองเพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

จากตัวเลขนี้ เป็นที่น่าสนใจว่า ก่อนหน้าโควิด-19 จีนเป็นอันดับหนึ่งประเทศที่ถูกปฏิเสธการเข้าญี่ปุ่นมากที่สุด แต่หลังโควิด-19ตั้งแต่ปี 2022 ไทยแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 และปัจจุบันมีจำนวนคนที่ถูกปฏิเสธมากกว่าจีนถึง 2 เท่า

สถิติการถูกปฏิเสธของคนไทย

2019 -1,398 คน

2020 - 341 คน

2021-  3 คน

2022 - 372 คน

2023 - 1,464 คน

2024 -  1,415 คน

ข้อมูลสรุปปลายปี 2024 ยังชี้ว่าปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีสถิติชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศมากที่สุดเป็นประวัติการณ์คือ 3,768,977 คน แต่ถึงอย่างนั้นประเทศไทยกลับมีจำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยอย่างผิดกฎหมาย หรือเกินกฎหมายกำหนดเป็นอันดับ 2 คิดเป็น 15.1% ของคนที่อยู่อาศัยอย่างผิดกฎหมายในญี่ปุ่น 

จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยผิดกฎหมายในญี่ปุ่น

1. เวียดนาม 14,296 คน

2. ไทย 11,337 คน

3. เกาหลีใต้ 10,600 คน

4. จีน  6,565 คน

5. ฟิลิปปินส์ 4,684 คน

6. อินโดนีเซีย 4,631 คน

7. ไต้หวัน 2,983 คน

8. ศรีลังกา 2,043 คน

9. กัมพูชา 1,380 คน

10. ตุรกี 1,372 คน

โดยในช่วงปี 2021 จำนวนคนไทยที่ผิดกฎหมาย เคยอยู่ที่ประมาณ 7,783 คน แต่เพิ่มขึ้นมาถึง 1 หมื่นคือช่วงหลังโควิด-19 

ทั้งก่อนหน้านี้ยังมีรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น ระบุว่า ในปี 2024 มีคนไทยขอยื่นคำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยในญี่ปุ่นถึง 2,128 คน ทำให้ชาวไทย ขึ้นเป็นอันดับสองของประเทศที่ขอสถานะผู้ลี้ภัยมากที่สุด รองจากประเทศศรีลังกา ซึ่งจำนวนนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นจำนวนมากถึง 11 เท่า จาก 184 คน เมื่อปีก่อน และขึ้นมาถึง 10 อันดับ จากปีก่อนที่อันดับ 12 มาเป็นที่ 2 ด้วย 

ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยติดอันดับต้นๆ ทั้งในลิสต์ของการถูกปฏิเสธเข้าญี่ปุ่น, อยู่อาศัยอย่างผิดกฎหมาย ไปถึงยื่นขอสถานะลี้ภัยที่อาจถูกตั้งข้อสงสัยว่า ยื่นขอในทางที่ผิดด้วย

สำหรับทั้งปัญหาการปฏิเสธคนเข้าประเทศ และคนอาศัยอย่างผิดกฎหมายนั้น ญี่ปุ่นก็มีแผนการ ‘Zero Illegal Immigrants Plan for the Safety and Security of the People’ หรือ 'แผนขจัดผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชน' โดยแผนระบะว่า จากการพบรายงานชาวต่างชาติไม่ปฏิบัติตามกฎ ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ประชาชนมากขึ้น และนำไปสู่การเรียกร้องอย่างมากให้เนรเทศชาวต่างชาติดังกล่าวโดยเร็ว 

ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างการควบคุมการเข้าเมือง และการจัดการถิ่นที่อยู่และการคัดกรองผู้ลี้ภัย รวมไปถึงยังมีแผนการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นสำหรับการอนุญาตเดินทาง หรือ JESTA มาใช้ ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น ต้องลงทะเบียน และได้รับอนุมัติก่อนเดินทาง ซึ่งจะระบบจะคัดกรองโดยอิงจากข้อมูลที่จัดเตรียมไว้ทางออนไลน์ล่วงหน้า และจะป้องกันไม่ให้ชาวต่างชาติที่ไม่พึงประสงค์เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น

โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวในปี 2028 และดำเนินการอย่างเป็นทางการในปี 2030