เริ่มวันนี้ "72จว." เปิดผับ-บาร์-โอเกะ ได้ แต่ "กทม.-นนท์-ปากน้ำ-ปทุม" แค่กินอาหารในร้าน5ทุ่ม-ห้ามดริ๊งก์

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เป็นวันแรกที่มีผลบังคับใช้ในการปลดล็อกกิจกรรม/กิจการต่างๆ หลังราชกิจจานุเบกษาประกาศ ข้อกำหนดออกตาความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยแบ่งพื้นที่ 5 กลุ่ม
ทั้งนี้ พื้นที่ 3 กลุ่มคือ “สีส้ม” พื้นที่ควบคุม 20 จังหวัด “สีเหลือง” พื้นที่เฝ้าระวังสูง 17 จังหวัด และ “สีเขียว” พื้นที่เฝ้าระวัง 35 จังหวัด รวม 72 จังหวัดได้รับการผ่อนคลายมาตรการได้หลายกิจกรรม/กิจการ โดยเฉพาะผับ บาร์ คาราโอเกะ นั่งรับประทานอาหารในร้าน จำหน่ายและดื่มสุราได้ รวมทั้งอาบอบนวด
ส่วน “สีแดง” พื้นที่ควบคุมสูงสุด 4 จังหวัด ได้แด่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ยังไม่ให้เปิดผับบาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหารเปิดให้นั่งรับประทานอาหารได้ไม่เกิน 23.00 น. จากเดิมได้แกค่ 21.00 น. แต่ห้ามดื่มสุราในร้าน จัดประชุมสัมมนา-จัดเลี้ยงได้ แต่จำกัดจำนวนไม่เกิน 100 คน งดดื่มสุรา งดแสดงดนตรีที่มีการเต้นรำ ส่วนการจัดการเรียนการสอนให้เปิดได้ แต่จัดการเรียนแบบผสมผสาน ทั้งในโรงเรียน ออนไลน์ และออนแอร์
ขณะที่ “สีแดงเข้ม” พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 1 จังหวัด คือสมุทรสาคร ยังเข้มงวด ห้ามเปิดสถานบริการต่างๆ ทั้งผับบาร์ คาราโอเกะ สนามมวย ฟิตเนส สปา นวดแผนไทย โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถานศึกษา สนามเด็กเล่น สวนสนุก ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต
ให้เปิดตลาด ตลาดนัดได้ แต่จำกัดจำนวนผู้ใช้ ต้องเว้นระยะห่าง ส่วนร้านอาหาร นั่งรับประทานได้ไม่เกิน 21.00 น. งดดื่มสุราในร้าน ศูนย์การค้าเปิดไม่เกิน 21.00 น.
วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จะมีกลุ่มนักร้อง นักดนตรีอาชีพอิสระ รวมตัวกันไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดสถานบันเทิง รวมทั้งขอให้เร่งผ่อนคลายมาตรการเปิดผับบาร์ในพื้นที่ที่ยังห้ามอยู่ ขณะที่ตัวแทนสมาคมคราฟท์เบียร์ จะเดินทางไปที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้นั่งดื่มเบียร์ในร้านอาหารได้
บทความน่าสนใจอื่นๆ
