สู้ได้ไหม! เทียบมูลค่าแบรนด์ธุรกิจไทยในอาเซียน

แบรนด์ ไฟแนนซ์ (Brand Finance) บริษัทที่ปรึกษาด้านการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก เผยรายงาน ASEAN (อาเซียน) 500 ปี 2025 ฉบับล่าสุด พร้อมระบุว่า ปีนี้เห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นของมูลค่าแบรนด์ทั่วทั้งภูมิภาค ตอกย้ำถึงช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ, นวัตกรรมดิจิทัล และการบูรณาการในระดับภูมิภาค

โดยมูลค่ารวมของแบรนด์ 500 อันดับแรกของอาเซียน ในปีนี้ อยู่ที่ 306,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมาจาก 6 ประเทศอาเซียน เมื่อพิจารณาตามรายประเทศ พบว่า สิงคโปร์ และมาเลเซีย เติบโตด้านมูลค่าแบรนด์ แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านในปีนี้ และเมื่อดูตามสัดส่วนจากมูลค่าแบรนด์ แบ่งตามรายประเทศ พบว่า สิงคโปร์ มีสัดส่วนของมูลค่าแบรนด์สูงที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 25.5, ตามมาด้วย มาเลเซีย ร้อยละ 19.2, และที่ 3 คือ อินโดนีเซีย มีสัดส่วนอยู่ที่ ร้อยละ 17.4 

ส่วน ไทย รั้งแค่ที่ 4 ในอาเซียนเท่านั้น มีสัดส่วนที่ร้อยละ 14.9 และถัดจากไทยคือ เวียดนาม ร้อยละ 12.4 (แต่เวียดนาม มีความโดดเด่นด้านแบรนด์ที่แข็งแกร่ง) และสุดท้าย ฟิลิปปินส์ มีสัดส่วน ร้อยละ 10.5 

หากดูเฉพาะของไทยเรา พบว่าแบรนด์ธุรกิจชั้นนำมีมูลค่าแบรนด์รวมอยู่ที่ 45,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากแบรนด์ค้าปลีกและพลังงานเป็นหลัก โดยมี ปตท. เป็นแบรนด์หนึ่งเดียวของไทย ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของอาเซียน

ด้าน อเล็กซ์ ไฮ กรรมการผู้จัดการ แบรนด์ ไฟแนนซ์ เอเชียแปซิฟิก ให้ความเห็นว่า แบรนด์ชั้นนำของไทย กำลังแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม และ ปตท. ยังคงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ 

พาไปดูแบรนด์ไทยที่มีความโดดเด่นในปีนี้ เริ่มจาก ปตท. ในปี 2025 มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เป็น 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยับขึ้นมา 1 อันดับจากปีที่แล้ว ไปอยู่ ท็อป 3 ของภูมิภาค ซึ่งแบรนด์ไฟแนนซ์ ระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าแบรนด์ของ ปตท.เติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้รับแรงหนุนจากความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรมการกลั่นปิโตรเคมี และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนทั้งธุรกิจและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

ต่อมาคือ การบินไทย มีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เป็น 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยยังคงเป็นแบรนด์สายการบินที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาค ซึ่งการบินไทย ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญไปแล้ว และหันมามุ่งเน้นการพัฒนาที่คล่องตัวมากขึ้น ทำกำไรได้มากขึ้น และมุ่งเน้นการเติบโต การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ยังช่วยเสริมสร้างทั้งแนวโน้มทางการเงินและชื่อเสียงของบริษัท ทำให้เป็นสายการบินแห่งชาติที่ได้รับการฟื้นฟู พร้อมกับความเชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตระยะยาว

ส่วน ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ทอท.) มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10 เป็น 227 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นท่าอากาศยาน ที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน โดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งของแบรนด์และผลประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยน และเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เปิดอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 15 ล้านคนต่อปี และเพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่าใหม่

มาดูต่อที่ ธนาคารกสิกรไทย มีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เป็น 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์ธนาคารที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 9 ของอาเซียนในปีนี้ต่อไปได้ กสิกรไทย ยังคงเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภาคธนาคารที่มีการแข่งขันสูงของไทย ด้วยการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมดิจิทัล การสนับสนุน เอสเอ็มอี และโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืน 

อีกหนึ่งธนาคารที่โดดเด่น คือ ธนาคารกรุงไทย มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 เป็น 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ธนาคารที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 4 ในอาเซียนของปีนี้อีกด้วย ด้วยคะแนนดัชนีความแข็งแกร่งของแบรนด์ ที่ 92 ส่วน 100 ได้รับการสนับสนุนจากการจัดอันดับความแข็งแกร่งของแบรนด์ระดับ AAA+ ทำให้เป็นแบรนด์ธนาคารที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศในปีนี้ และในฐานะหน่วยงานของรัฐ ธนาคารได้รับความไว้วางใจในด้านความมั่นคง และชื่อเสียง ความเป็นผู้นำด้านบริการสาธารณะดิจิทัล ประกอบกับความแข็งแกร่งทั้งในชนบทและต่างจังหวัด ช่วยให้ธนาคารยังคงเชื่อมโยงกับคนไทยอย่างลึกซึ้ง

สำหรับ เซ็นทารา โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ เป็นแบรนด์โรงแรมที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยมีมูลค่าแบรนด์อยู่ที่ 323 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การขยายธุรกิจและผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้นของแบรนด์ ส่งผลให้มูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นอย่างมาก และในเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา เซ็นทาราได้ประกาศเปิดตัวสวนน้ำ เซ็นทารา มิราจ ลากูน ที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อขยายบริการสำหรับครอบครัว และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านประสบการณ์การพักผ่อนและรีสอร์ทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สุดท้าย เอ็มเค เรสเตอรองส์ เป็นแบรนด์ร้านอาหารเพียงแบรนด์เดียวจากประเทศไทย มีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เป็น 188 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงอาหารไทยในภูมิภาคนี้ และยังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์ร้านอาหารที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของอาเซียน ไว้ได้อีกด้วย เอ็มเคฯ เป็นที่รู้จักจากสุกี้ยากี้สูตรเด็ด สะท้อนถึงประเพณีการทำอาหารอันหยั่งรากลึกของประเทศไทย พร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับรสนิยม และความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ การเติบโตของมูลค่าแบรนด์ของเครือร้านอาหารแห่งนี้ แสดงให้เห็นว่าอาหารไทยยังคงได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง อีกด้วย 

ในขณะที่แบรนด์ชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน ในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงหลายอันดับ โดย ดีบีเอส ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์ แซงหน้า ปิโตรนาส ขึ้นเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในอาเซียน และยังคงรักษาอันดับความแข็งแกร่งของแบรนด์ไว้ที่ระดับ AAA ต่อไปได้

โดยธนาคาร ดีบีเอส มีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 56 เป็น 17,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วน ปิโตรนาส แบรนด์พลังงานของรัฐบาลมาเลเซีย ลงมาอยู่อันดับ 2 ซึ่งมูลค่าแบรนด์ของ เปโตรนาส ลดลงร้อยละ 1 เป็น 14,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 3 ก็คือ ปตท. ที่ไต่ขึ้นมา 1 อันดับ แต่หากพิจารณาด้านความแข็งแกร่งของแบรนด์ พบว่า แบรนด์ธุรกิจของเวียดนามมีความโดดเด่นมากในปีนี้

โดยพบว่า Vinpearl แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทชั้นนำของเวียดนาม ไต่อันดับขึ้น 2 อันดับ สู่การเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค แบรนด์เวียดนามรายนี้ มีมูลค่าแบรนด์ 204 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีดัชนีความแข็งแกร่งของแบรนด์ ที่ 97.5 ส่วน 100 และคะแนนความแข็งแกร่งของแบรนด์ ระดับ AAA+ 

อันดับ 2 คือ ธนาคาร BCA ของอินโดนีเซียร่วงลงมาหนึ่งอันดับ สู่การเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับสองในภูมิภาค และมีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 เป็น 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

และแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในอาเซียน อันดับ 3 คือ Vietcombank หนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของเวียดนาม มีมูลค่าแบรนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เป็น 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ