CK Backlog พุ่งครึ่งปีหลัง- GPMดี บล.ดีบีเอสฯมองเป้า 25 บ.
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส วิเคราะห์หุ้น CK ระบุว่า Backlog จะทะยานขึ้นใน 2H23F ผู้บริหารปรับเป้ารายได้ปี 23F เป็น 30-35 พันล้านบาท (เดิม 25-30 พันล้านบาท) และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7-8% ซึ่งประมาณการของบล.ดีบีเอสฯอยู่ในเป้าหมายบริษัท
คาดกำไรสุทธิ 3Q23F อ่อนลง YoY และ QoQ เพราะฐานสูง ทั้งนี้ รายได้จากการก่อสร้างเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ เพราะไตรมาส 3 เป็นฤดูฝน ส่วน GPM อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 7.0-7.5% ด้านส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมคาดว่าจะลด YoY เพราะฐานปีก่อนสูง แต่ดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เพราะ CKP มีมาร์จิ้นดีขึ้นจากต้นทุนก๊าซในประเทศลดลง
คาดธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะทำกำไรได้ในระยะต่อไป จากการรับรู้รายได้งานที่ดำเนินการอยู่หลายโครงการ เช่น โรงไฟฟ้าหลวงพระบาง, รถไฟฟ้าสายสีม่วง, รถไฟรางคู่เด่นชัย-เชียงราย
งานในมือ (Backlog) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทำ Record high โดยสิ้น 2Q23มูลค่างานในมือเท่ากับ 143.6พันล้านบาท และบริษัทจะประมูลงานใหม่เข้ามาอีกในช่วง 2H23F-24F ได้แก่ โครงการ MRT สีส้มตะวันตก 109.2 พันล้านบาท (BEM เสนอราคาต่ำสุด ผู้บริหารคาดว่าจะเซ็นสัญญาภายในสิ้นปี 23 นี้), ส่วนต่อขยาย MRT สายสีแดง 14.91 พันล้านบาท, โครงการรถไฟรางคู่, มอเตอร์เวย์ M9, ทางด่วนกระทู้-ป่าตอง ฯลฯ
บริหารจัดการอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่จะปรับขึ้นตามนโยบายรัฐบาลใหม่ได้ โดยรัฐบาลมีแผนจะปรับขึ้นจาก 328-354 บาท/วัน เป็น 400 บาท/วันในปี 24 และ 600 บาท/วันในปี 27 ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนต้นทุนแรงงาน 10-11% ของต้นทุนทั้งหมด ซึ่งบริษัทเร่งปรับตัวโดยใช้เครื่องจักรให้มากขึ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 25 บาท (SOP) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 23F-24F เติบโต +52% และ +32% เป็น 1.5 พันล้านบาท และ 2.0 พันล้านบาท ตามลำดับ จากรายได้ที่เติบโต, GPM ที่ 7.2%-7.3% และส่วนแบ่งกำไรบ.ร่วมเพิ่ม โดยเฉพาะ BEM (โดยยังไม่รวมรายได้จากโครงการสายสีส้ม)