รีเซต

แกะรอยตามรวบทันควัน โจรทำทีซื้อของ ก่อนฉกเงิน 1.3 หมื่นบาท ของยายวัย 79 ไปซื้อทอง

แกะรอยตามรวบทันควัน โจรทำทีซื้อของ ก่อนฉกเงิน 1.3 หมื่นบาท ของยายวัย 79 ไปซื้อทอง
ข่าวสด
19 มิถุนายน 2564 ( 03:38 )
43
แกะรอยตามรวบทันควัน โจรทำทีซื้อของ ก่อนฉกเงิน 1.3 หมื่นบาท ของยายวัย 79 ไปซื้อทอง

 

ตร.แกะรอยกล้องวงจรปิด ตามรวบทันควัน โจรทำทีซื้อของ ก่อนฉกเงิน 1.3 หมื่นบาท ของยายวัย 79 ปี สารภาพนำเงินไปใช้จ่ายและซื้อทองครึ่งสลึง

 

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2564 พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระจักร์ จรรยากรณ์ รอง ผกก.สส.ฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ประกอบด้วย พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เลพล สว.สส. ,ร.ต.อ.กฤษฎ์ อนันต์ รอง สว.สส., ร.ต.อ.อนุสรณ์ พันธ์อ่อน รอง สว.สส., ร.ต.อ.จีรศักดิ์ พิมพ์ไชย รอง สว.สส., ร.ต.ต.วินัย จำปาเรือง รอง สว(ป.) และร.ต.ต.ไพฑูรย์ ศรีวงษ์ รอง สว(ป.)

 

เข้าจับกุมนายอำพร เกยมาศ อายุ 45 ปี ที่บ้านเลขที่ 56 ม.5 ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยของกลางเงินสด จำนวน 1,600 บาท, สร้อยคอทองคำ (ผู้ต้องหาอ้างว่า ซื้อมาครึ่งสลึง จำนวน 1 เส้น), รถจักรยานยนต์ซูซูกิ สแมช สีน้ำเงินดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.กันทรลักษ์

 

 

สืบเนื่องจากช่วงเช้าของวันที่ 18 มิ.ย. 2564 พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.กันทรลักษ์ ว่า มีเหตุลักทรัพย์ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง เขต ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางจันทร์ ใจแจ้ง อายุ 78 ปี ผู้เสียหายแจ้งว่า มีชายไม่ทราบชื่อ จำใบหน้าได้ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สแมช ไม่ติดป้ายทะเบียน แต่งกายเสื้อคลุมแขนยาวสียีนส์ สวมกางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าแตะหนีบ สวมหน้ากากอนามัย เข้ามาซื้อสินค้า และขโมยเงินสดในกระเป๋าของผู้เสียหาย จำนวน 13,000 บาท ขับรถหลบหนี ไม่ทราบเส้นทาง

 

 

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงออกสืบสวนติดตามหาตัวผู้ประกอบเหตุอย่างต่อเนื่องทันที โดยออกสืบสวนหาข่าว และตรวจสอบเส้นทางจากกล้องวงจรปิดรอบที่เกิดเหตุ กระทั่งพบภาพคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปทางซอยบ้านบก จึงลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง และได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พบบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิด มีตำหนิรูปพรรณคล้ายกับนายอำพร เกยมาศ อายุ 45 ปี

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงคัดภาพข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมนำภาพใบหน้านายอำพรไปให้พยานและนางจันทร์ ผู้เสียหาย ตรวจดู ปรากฏว่าผู้เสียหายชี้และยืนยันว่าเป็นภาพของคนร้ายที่ก่อเหตุจริง

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงออกติดตามคนร้ายตามภาพ และสามารถจับกุมคนร้ายได้ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านค้าดังกล่าวจริง ได้เงินสดประมาณ 13,000 บาท ก่อนนำเงินไปใช้จ่าย และไปซื้อทองคำจำนวนครึ่งสลึง ราคาประมาณ 3,700 บาท ที่ร้านขายทองแห่งหนึ่ง และกลับมาบ้าน และเหลือเงิน จำนวน 1,600 บาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่นายอำพรสวมใส่อยู่ สอบถามยอมรับว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการลักทรัพย์จริง

 

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่ถึง 8 ชั่วโมง ในการติดตามจับกุมคนร้าย แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ(รถจักรยานยนต์) เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง