น่าน — นันทบุรีศรีนครน่านล้านนาตะวันออก จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างมุ่งหวังว่าจะต้องเดินทางมาถึงให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อสัมผัสกับความงดงามทางวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ท่ามกลางความเงียบสงบปราศจากความวุ่นวายในเมืองต้องมนต์แห่งนี้ ในวันที่ทั้งประเทศประสบกับวิกฤตการณ์ไวรัสโคโรน่าระบาด จนรัฐบาลต้องมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาเพื่อคุมสถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวครอบคลุมทั่วทั้ง 77 จังหวัด จังหวัดน่านยังคงเป็น 1 ในจำนวน 9 จังหวัดทั่วประเทศที่เป็นพื้นที่สีขาว คือยังคงสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ภายในพื้นที่เอาไว้ได้ ด้วยผลรายงานผู้ติดเชื้อที่เป็น 0 นับตั้งแต่ช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ที่ผู้เขียนในฐานะสื่อมวลชนอิสระที่ได้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดน่าน เพื่อคอยติดตามประสานการทำงานของกลุ่มชาวน่านต้านโควิด วันนี้จึงอยากจะนำยุทธศาสตร์และกลยุทธ์การรับมือกับโควิด 2019 ของชาวน่านมาบอกเล่าสู่กันฟังครับ จังหวัดน่านเป็นจังหวัดที่โชคดี ตรงที่มีประชาชนและชุมชนที่เข้มแข็งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นอย่างดี นับตั้งแต่ในระดับจุลภาค ทุกคนที่กลับภูมิลำเนาต่างให้ความร่วมมือในการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน หรือในพื้นที่ที่กำหนดให้ โดยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบติดตามเป็นประจำตามระยะเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังมีการวางแผนนโยบายล่วงหน้าทางด้านสถานที่เพื่อรองรับจำนวนประชาชนที่อาจทะลักกลับสู่ภูมิลำเนาอีกด้วย โดยการนำเสนอแนวทางนำอาคารสถานที่ของโรงเรียนที่ถูกสั่งยุบ ให้กลับมาเป็นสถานที่กักตัวของผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดน่าน ควบคู่ไปกับการใช้สถานที่ของโรงแรมและที่พักภายในจังหวัดซึ่งอาจมีไม่เพียงพอ ภายใต้การดำเนินงานของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาวน่านต้านโควิด จังหวัดน่านใช้กลยุทธ์แบบ “กันไว้ดีกว่าแก้” พร้อมทั้ง “ชิงลงมือก่อน” ไม่ชักช้าอืดอาด ผู้นำท้องถิ่นในจังหวัดน่านมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด มาตรการของนายกเทศบาลเมืองน่านมีการสั่งซื้อแอลกอฮอล์เพื่อแจกจ่ายให้ครัวเรือนในเขตเทศบาลโดยไม่ต้องรอจากรัฐส่วนกลาง มีคำสั่งปิดพื้นที่เสี่ยงอย่างเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นมา หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 วันจึงมีการระดมลงชื่อเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดน่านและผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เพื่อให้ดำเนินการสั่งห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออกข้ามจังหวัด ปิดทางเข้ารอยต่อเขตจังหวัดทุกด้าน รวมทั้งระงับการใช้บางเส้นทางเป็นการชั่วคราว อาทิ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1083 สายเด่นชัย-นาน้อย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1216 สายขุนสถาน-บ้านส้าน ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1243 สายห้วยไผ่-หาดไร่ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2563 เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ “ทำก่อนได้เปรียบ – ไม่ต้องรีรอ” ที่ชาวน่านทุกคนพึงพอใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เนื่องจากจังหวัดน่านมีรอยต่อระหว่างจังหวัดและประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ตรงช่วงรอยต่อระหว่างอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน กับอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ อำเภอบ้านหลวง และอำเภอสองแคว จังหวัดน่าน กับ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน กับแขวงไชยยะบุลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จังหวัดน่านจึงมีการเพิ่มใช้มาตรการความเข้มข้นสูงสุดในการตั้งด่านตรวจคัดกรองโควิด -19 มีการติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงประจำด่านคัดกรองแต่ละจุดเพื่อประโยชน์ในการรายงานสื่อสาร มีการระดมกำลังจัดสร้างด่านคัดกรองโรคที่คงทนแข็งแรงโดยไม่รอกระบวนการจัดการจากทางส่วนกลาง มีการระดมจัดหาเงินทุนจากหลายภาคส่วน ทั้งทางภาครัฐและเอกชน ทั้งฝ่ายศาสนจักรและอาณาจักร เพื่อนำไปรองรับการขับเคลื่อนสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน การรับบริจาคและจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสามารถทำออกมาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมาก จนได้รับการชื่นชมจากเพื่อนบ้านในจังหวัดใกล้เคียงและนอกประเทศ ประชาชนในจังหวัดน่านให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ และตระหนักในการเฝ้าระวังตนเองและคนรอบข้าง มีการริเริ่มช่วยกันทำหน้ากากทั้งแบบผ้าและแบบแผ่นใสแบ่งปันให้แก่สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ การรณรงค์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด เช่น ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนสถานที่ที่หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นได้ยาก มีการรณรงค์ลงพื้นที่สู่ชุมชนอย่างจริงจังเป็นประจำทุกวัน ตลอดจนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารทั้งในฉบับภาษาไทยกลางและภาษาท้องถิ่น เพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ทั้งข้อมูลสื่อสารในรูปแบบ One Page ที่เข้าใจง่าย และช่องทางการกระจายเสียง น่านเป็นเมืองในหุบเขาที่ห่างไกล เป็นเมืองชายแดน ไม่ใช่เมืองผ่านทางเหมือนจังหวัดอื่น ๆ และเป็นเมืองที่มีคลังทรัพยากรเป็นของตนเอง จากการวิเคราะห์ผลการผลิตโดยรวม น่านมีทรัพยากรผลผลิตภายในจังหวัดที่สามารถอยู่ได้ถึง 2 เดือนเต็ม ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากภายนอก ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งมากในการตัดสินใจวางกลยุทธ์ หากแต่นอกเหนือจากปัจจัยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรแล้ว สิ่งที่ทำให้จังหวัดน่านยังคงยืนหยัดต้านการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาได้ คงไม่ใช่สิ่งใดอื่น นอกจากความตื่นตัว ตระหนักรู้ และความร่วมมือร่วมใจกันของชาวน่าน ทั้งที่อาศัยอยู่ภายในจังหวัดน่านเองและอยู่ต่างจังหวัด ดังที่สื่อประชาสัมพันธ์ของจังหวัดน่านกล่าวย้ำให้ได้ยินอยู่ทุกวันว่า “ถ้ารักน่าน ขออย่าเพิ่งเดินทางมาน่าน เพื่อให้น่านเป็นพื้นที่สีขาวแบบนี้ไปนาน ๆ นะ” ภาพประกอบ โดย ผู้เขียน