สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนมีอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจและกำลังมาแรงในตอนนี้ก็คือ "การเลี้ยงหอยปัง" นั่นเองค่ะ หอยปังจะมีลักษณะคล้ายหอยโข่งมาก สามารถนำมารับประทานได้เช่นกัน รสชาติอร่อย ปัจจุบันหอยปัง เริ่มจะมีน้อยลงในธรรมชาติ เนื่องจากหอยชนิดนี้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปรวมถึงสารเคมีต่าง ๆ เช่น ยากำจัดวัชพืช ยาฆ่าแมลง จึงทำให้หลาย ๆ พื้นที่เริ่มมีหอยปังลดน้อยลงและใกล้สูญพันธุ์ นอกจากนี้หอยปังยังเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของแหล่งน้ำนั้น ๆ ด้วย หากน้ำสะอาดไม่มีสารพิษเจือปน หอยชนิดนี้จะสามารถเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดี วันนี้ผู้เขียนมีวิธีการอนุบาลลูกหอยปังเพื่อเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมมาฝากกันค่ะ1. การเตรียมบ่ออนุบาลบ่อที่เลี้ยงควรเป็นบ่อเก่าที่เคยใช้งานมาแล้ว หากเป็นบ่อใหม่ที่ไม่เคยใช้งาน ควรจะแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ และแช่ต้นกล้วยลงไปด้วยเพื่อปรับสภาพของบ่อ จากนั้นจึงเทน้ำทิ้ง แล้วใส่น้ำใหม่ลงไป สามารถทดสอบได้โดยการนำปลาหางนกยูงลงไปในน้ำ หากว่าปลาสามารถอยู่ได้แสดงว่าบ่อใช้ได้แล้ว2. การฟักไข่ ไข่ของหอยปังจะมีลักษณะกลม มีสีขาวเกาะกันเป็นกลุ่มก้อน โดยแม่หอยปังจะขึ้นมาวางไข่บนพื้นดินที่มีดินชุ่มชื้น แต่ด้วยมีศัตรูตามธรรมชาติ ไข่หอยปังที่จะถูกฟักออกเป็นตัวจึงมีอัตราการรอดน้อย ดังนั้น เราจึงต้องเก็บเอาไข่มาฟักเอง โดยนำดินเหนียวที่ชุ่มน้ำใส่ลงในภาชนะ เช่น จาน ชาม จากนั้นจึงนำไข่หอยปังมาวางไว้ด้านบนของภาชนะ ตรงจุดนี้มีความสำคัญมาก เพราะต้องคอยระวังไม่ให้ดินเหนียวแห้งเพราะไข่หอยจะฝ่อได้ 3. น้ำที่ใช้เลี้ยงลูกหอยปัง ควรใช้น้ำจากแหล่งธรรมชาติ ไม่ควรใช้น้ำประปา หากว่าจำเป็นต้องใช้น้ำปะปาจริง ๆ ควรพักน้ำไว้อย่างน้อย 2 วัน หรือจนกว่ากลิ่นคลอรีนจะระเหยออกไปจนหมด จึงจะสามารถนำมาเลี้ยงลูกหอยปังได้ 4. อาหารที่ใช้เลี้ยงลูกหอยปัง ระหว่างที่ลูกหอยปังฟักออกจากไข่ ในน้ำควรใส่สาหร่ายหางกระรอก สาหร่ายไฟลงไปเพื่อให้ลูกหอยปังได้กิน จากนั้นจึงค่อยเสริมด้วยอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่นปลาป่น อาหารปลาดุกเล็ก อาหารกุ้ง เป็นต้น เพื่อให้ลูกหอยเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น เป็นอย่างไรบ้างคะ กับวิธีการอนุบาลลูกหอยปัง วิธีนี้สามารถช่วยให้ลูกหอยปังมีอัตราการรอดที่สูงขึ้น เมื่อโตประมาณเหรียญบาทก็สามารถนำไปเลี้ยงในบ่อดินได้ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ ภาพประกอบบทความโดย ผู้เขียน