โพลเผย 'โควิด-19' ทำความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

วอชิงตัน, 21 ก.พ. (ซินหัว) -- ผลการสำรวจในสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้พบว่า ร้อยละ 42 ของกลุ่มผู้ใหญ่กล่าวว่าพวกเขามีฐานะแย่ลง เนื่องการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้ทำให้ช่องว่างทางความมั่งคั่งภายในประเทศถ่างกว้างขึ้น

ดัชนีความมั่นคงทางการเงินของสหรัฐฯ (CFSI) ได้ทำการสอบถามประชาชนในประเทศกว่า 1,300 คน หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี และพบว่าแม้ว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะลดต่ำลงมากจากจุดสูงสุดในเดือนเมษายน 2020 แต่กลุ่มคนผิวสี ผู้มีรายได้ต่ำ ผู้หญิง และแรงงานที่มีการศึกษาน้อย ยังคงติดอยู่ในหล่มความยากลำบากทางเศรษฐกิจ โดยประชาชนเหล่านี้มักจะทำงานในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดของโรคโควิด-19รายงานของบรูกกิงส์ (Brookings) ระบุว่าโรคโควิด-19 ยังได้ทำให้ช่องว่างทางความมั่งคั่งระหว่างครอบครัวคนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวฮิสแปนิกและครอบครัวคนผิวดำนั้นเพิ่มมากขึ้น พร้อมเสริมว่าโดยเฉลี่ยแล้วครอบครัวคนผิวขาวครอบครองทรัพย์สินมากกว่าครอบครัวคนผิวดำถึง 8 เท่า และมากกว่าครอบครัวชาวลาติโน (ผู้ที่มีพื้นเพมาจากลาตินอเมริกา) หรือชาวฮิสแปนิก (ผู้สืบเชื้อสายมาจากประชากรที่พูดภาษาสเปน) ถึง 5 เท่าขณะเดียวกัน ชนชั้นกลางซึ่งมีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 60 ของรายได้ของประเทศ ได้เผชิญกับการเติบโตของรายได้ที่ช้าลงเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่มีระดับรายได้สูงกว่าและกลุ่มคนที่มีระดับรายได้ต่ำกว่า