เจอ 19 คนผลตรวจเป็นบวก หลังกลับจากประกอบพิธีทางศาสนาที่อินโดนีเซีย อีก 8 ให้กักตัว 14 วัน
รายงานข่าวจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.แจ้งว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (EOC) โควิด-19 ได้รายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า-ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 00.00-23.59 น. โดยพบว่า มีจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 202 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 106 เที่ยวบิน ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินขาออกจำนวน 52 เที่ยวบิน และขาเข้าจำนวน 54 เที่ยวบิน มีเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 96 เที่ยวบิน แบ่งเป็น ขาออกจำนวน 48 เที่ยวบิน และขาเข้าจำนวน 48 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ในส่วนของจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า-ออก ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวนทั้งสิ้น 11,355 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ จำนวน 7,297 คน โดยเป็นผู้โดยสารขาออกจำนวน 6,302 คน และผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 995 คน มีผู้โดยสารภายในประเทศ จำนวน 4,058 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออกจำนวน 848 คน และผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 3,210 คน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเที่ยวบินและผู้โดยสารจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีจำนวนเที่ยวบินลดลง 81.2% และจำนวนผู้โดยสารลดลง 93%
รายงานข่าวแจ้งว่า ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 995 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค(PUI) แต่ได้เก็บตัวอย่างผู้โดยสารคนไทยที่กลับจากการไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 27 คน ส่งตรวจ มีผลแล็บเป็นบวก จำนวน 19 ราย จึงได้นำส่งต่อโรงพยาบาล และผลแล็บเป็นลบ จำนวน 8 ราย สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้แต่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วัน
สำหรับการคัดกรองผู้โดยสารขาออก รวมทั้งสิ้น 6,302 คน พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI จำนวน 1 คน จึงได้นำส่งต่อโรงพยาบาล ทั้งนี้ในวันที่ 30 มีนาคม 2563 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี จำนวน 1 เที่ยวบิน (โคเรียนแอร์ไลน์) มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 147 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 144 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ จำนวน 95 คน และตรวจไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI