สำหรับนักศึกษาคนไหน ที่กำลังลังเลใจ ในเรื่องของ “การเลือกที่ฝึกงาน” ฝึกวิชาชีพ หรือใดใดก็ไหนก็ตาม ที่เป็นการให้นักศึกษาเลือกเข้าไปทำงานในบริษัท ห้างร้าน ร้านค้า หรือองค์กรต่าง ๆ ที่จะช่วยทำให้นักศึกษานั้นได้รับ ประสบการณ์ในการทำงานจริง ๆ ก่อนออกสู่ชีวิตการทำงานที่แท้จริง หลังเรียนจบ ซึ่งการฝึกงานในที่นี้ อาจจะไม่ได้มีในทุก ๆ มหาวิทยาลัย แต่สถานที่ฝึกงานหลาย ๆ ที่ก็มีนโยบายเปิดรับนักศึกษาฝึกงาน หรือผู้ที่ต้องการเข้ามาฝึกงานในองค์กรนั้น ๆ โดยบางที่ก็อาจจะให้ค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทนเป็นเงินบางจำนวนให้ หรือบางที่ก็อาจจะไม่ได้มีค่าตอบแทนให้เลยก็ตามซึ่งวันนี้นะคะ ไรท์ก็มาในหัวข้อ เคล็ดลับเลือก ‘ที่ฝึกงาน’ เนื่องจากส่วนตัวไรท์นั้น ได้ผ่านมาแล้ว ก็เลยอยากจะมาแนะนำเพื่อน ๆ ทุกคนที่กำลังลังเลใจ ว่าจะไปฝึกงานที่ไหนดี? เลือกแบบไหนดี? เพราะหลาย ๆ คน ก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานเลย ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลยจ้าเครดิต : https://unsplash.comนักศึกษาที่ต้องออกไปฝึกงานมี 2 ประเภทนะคะ โดยคุณก็ต้องพิจารณาตัวเองก่อนว่าคุณเป็นแบบประเภทไหน ประเภทแรกก็คือ คนที่ไปฝึกงาน เพื่อต้องการที่จะทำงานจริง ๆ ได้รับประสบการณ์ที่ดีนั้นจริง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการทำงานในอนาคต ส่วนประเภทที่สองก็คือ คนที่ต้องการไปฝึกงาน เพราะแค่อยากฝึกงานตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ให้ผ่าน และเรียนจบ แต่ไม่ได้ต้องการทำงานในสายงานนั้น ๆ จริงๆ ซึ่งแบบที่สองนั้นฟังดูก็อาจจะแย่นะคะ แต่ในบางกรณีก็นั้นก็สามารถเข้าใจได้อยู่ เช่น คนบางคนมีธุรกิจส่วนตัวที่บ้านที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคณะที่เรียน หรือบางคนอาจจะรู้ตัวช้าว่าตนเองไม่ได้ชอบ จึงไม่ได้อยากทำงานในสายงานที่เรียน เป็นต้นเครดิต : https://unsplash.comคุณเป็นแบบประเภทแรกเหมือนกับไรท์ ก็อยากให้มองหาที่ฝึกงานดี ๆ ไปเลยค่ะ อาจจะมองหาองค์กรใหญ่ ๆ บริษัทดี ๆ ที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีงานเยอะ ๆ เพราะเราก็จะได้ประสบการณ์เยอะไปตามนั้นด้วยค่ะ แต่ส่วนมากแล้วองค์กรใหญ่ ๆ เค้าก็จะไม่ได้มีในเรื่องของค่าตอบแทนให้ สำหรับนักศึกษาฝึกงาน หรือบางทีอาจจะอยู่ไกล ยกตัวอย่างเช่นไรท์ เรียนคณะนิเทศศาสตร์สนใจฝึกงานในสายงานครีเอทีฟ ซึ่งบริษัทที่ถนัดในสายงานที่ไรท์สนใจ ส่วนมากก็จะอยู่ที่กรุงเทพฯ ดังนั้นไรท์จึงต้องเดินทางไปฝึกงานที่กรุงเทพ (เพราะเป็นคนเชียงใหม่) ดังนั้นก็ต้องมีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ถ้าใครพอมีทุนทรัพย์ และไม่กลัวที่ต้องไกลบ้าง ก็บอกเลยว่าแนะนำนะคะ เพราะประสบการณ์ที่ได้มานั้น คุ้มค่า และได้ใช้จริงกับงานที่ไรท์ทำในปัจจุบันจริง ๆ แต่เรื่องของการคัดเลือกนักศึกษาที่เข้าไปฝึกงานนั้น ก็ต้องบอกว่าแอบหิน เพราะยิ่งบริษัท์ใหญ่ ๆ องค์กรดี ๆ คนก็ยิ่งสนใจเยอะ ยื่นเรื่องขอฝึกงานเยอะ บริษัทเขาจึงต้องมีการคัดเลือกนั่นเองจ้าเครดิต : https://unsplash.comแต่ถ้าคุณเป็นในแบบประเภทที่สอง ไรท์ก็อาจจะแนะนำให้หาฝึกงานในสถานที่ ที่ไม่ได้ไกลมาก และอาจจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ เช่น ในจังหวัดของตนเอง หรือฝึกงานที่มหาวิทยาลัยเอง (สำหรับในบางมหาวิทยาลัยก็สามารถทำได้นะคะ) แต่จริง ๆ แล้วถ้าอยากให้แนะนำส่วนตัวไรท์ก็มองว่า อยากให้เพื่อน ๆ ฝึกงานในแบบแรกมากกว่า เพราะถึงแม้ว่าเพื่อน ๆ อาจจะไม่ได้ทำงานในสายงานที่เรียนมาก็จริง แต่ก็อาจจะได้ประสบการณ์ชีวิตดี ๆ เพิ่มมาอีกอย่างหนึ่ง ว่าครั้งหนึ่งเราเคยทำงานแบบนี้ ฝึกงานแบบนี้ เคยอยู่ในองค์กรใหญ่แบบนี้ เป็นต้นค่ะ อีกทั้งจากประสบการณ์ ไรท์ก็ได้เห็นเพื่อน ๆ ไรท์ในรุ่นหลาย ๆ คน ที่ค้นพบว่าตนเองอยากทำอะไรจริง ๆ ในตอนที่ฝึกงานอีกด้วยค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ก็อยู่ที่ตัวเพื่อน ๆ เองนะคะ ขอให้เลือกกันให้ดี ๆ ค่อย ๆ คิดอย่างมีสติค่ะ ส่วนไรท์เองก็จะขอเป็นกำลังใจ และอวยพรให้เพื่อน ๆ ทุกคน ได้ที่ฝึกงานที่ตัวเองชอบ และผ่านการฝึกงานนั้นไปด้วยดีนะคะ ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตตามสิ่งที่คาดหวังกันด้วยค่ะ สู้ ๆ นะคะเครดิตภาพหน้าปก : https://www.freepik.com