สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาเเชร์ข้อคิดที่ได้จากหนังสือ คัมภีร์หน้าหน้าครับ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เขียนมาจากประสบการณ์ของชายชาวจีน ที่มีความฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ เเต่ชีวิตกลับพลิกผันให้ตัวเขาออกเดินทางตามหาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั้น คือ การต่อสู้กับคำปฏิเสธเพื่อเป็นตัวเเทนของผู้คนทั่วโลกที่สามารถก้าวผ่านความกลัวไปได้ เเละทำให้เราเห็นว่า คำปฏิเสธ นั้น คือ เรื่องธรรมดา...ที่ทุกๆ คนพบเจอ ซึ่งผมได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวของเขาเเละได้ฟังเรื่องราวของชายคนนี้ ผ่าน Ted talk Austin ที่เขาไปพูดเมื่อ 10 ปีที่เเล้ว เพราะส่วนตัวก็เป็นคนที่กลัวกับคำปฏิเสธเช่นกัน พอได้ฟังมองมุมจากเขา ทำให้ผู้เขียนเอง มีมุมมองที่เเตกต่างไปกับคำปฏิเสธที่พบเจอ ข้อคิดที่ได้เป็นความเห็นส่วนตัวจากที่ได้เรียนรู้นะครับ ไม่มีผิดไม่มีถูก หลายท่านอาจจะมองเห็นต่าง อันนี้ไม่ว่ากันครับเรื่องย่อJia Jiang มีความฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ เเต่ระหว่างทางกลับพบภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าระหว่างการทำธุรกิจ เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเเละได้ inspiration ในการท้าทายตัวเองจากไอดอลที่เขารู้จัก นั่นคือ Challenge rejection therapy หรือ การบำบัดด้วยคำปฏิเสธ ภารกิจคือ ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเอง โดนปฏิเสธใน 100 วัน จะขอให้คนอื่นทำเรื่องอะไรก็ได้ ที่คิดว่าเขาจะปฏิเสธเราเเน่ๆ ผลลัพธ์คือ เขาได้ทำในสิ่งที่เหลือเชื่อมากๆ เพราะบางสิ่งที่เขาขอเป็นจริง ไม่ใช่ทุกคนที่จะปฏิเสธคำขอของเขา ส่วนเรื่องราวจะเป็นอะไรบ้าง ต้องไปติดตามอ่านต่อในหนังสือกันนะครับ ซึ่งข้อคิดที่ผมได้จะเป็นเช่นไรนั้น ไปชมกันเลยครับ1.เข้าใจธรรมชาติความกลัว คือ ภาวะปกติธรรมดาของมนุษย์ทั่วไป มนุษย์ทุกคนกลัวหมดเเหละ ไม่มีใครที่ไม่กลัว เเต่สิ่งที่กลัวของเราต่างเเตกต่างกันไปบ้าง คล้ายกันบ้าง การถูกปฏิเสธ = เปรียบเสมือนการเจ็บปวดทางร่างกาย (เป็นสมองที่เจ็บ) 2.เปลี่ยนคำถามเปลี่ยนจาก ถ้าเราทำเขาจะว่าเราไหม เป็น ถ้าเราไม่ทำมันจะเป็นยังไง หรือ คำถามที่ว่า จะเป็นอย่างไรถ้า "เราไม่มีความกลัว" จะเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีคนตัดสินเราเลย?3.อารมณ์ขันช่วยลดความเจ็บปวดได้เมื่อเราหัวเราะ ความเจ็บปวดจากการปฏิเสธ ความกลัวจะลดลง เพราะการหัวเราะเชื่อมโยงกับการลดการเจ็บปวดเเละความเครียดลงได้ การหัวเราะจะทำให้เรามีสมาธิ เเละเป็นพลังทำลายล้างของการถูกปฏิเสธนั้นเอง4.ยอมรับคำปฏิเสธเราต้องเข้าใจว่าคำปฏิเสธ คือ ธรรมชาติของชีวิต ไปสมัครงานก็โดนปฏิเสธ เเละไม่ใช่เเค่เราโดน เเต่เราก็เคยปฏิเสธคนอื่นเช่นกัน การเดินผ่านหน้าร้านโดยที่เราไม่ซื้อของ นั่นคือ เราปฏิเสธเขา เเละเมื่อเราโดนปฏิเสธ อาจจะถามหาเหตุผลก็ได้ว่า "ทำไมนะ" เพื่อให้เรารู้สาเหตุของคำปฏิเสธนั้น 5.หาด้านดีของคำปฏิเสธนั้นคำปฏิเสธบางคำอาจจะเป็น เเรงพลังให้เราเดินหน้าต่อไปก็ได้ อย่างเช่นตัวอย่างของคนสำเร็จหลายๆ คน โทมัส เอดิสัน ที่ผิดหวังจากการประดิษฐ์หลอดไฟเป็นพันๆครั้ง หรือ เจ้าของ Dyson ที่ทำการทดลองกว่าพันครั้งเช่นกัน หรือ Jack Ma ที่โดนปฏิเสธจากที่ทำงาน จะเห็นได้ว่าคนสำเร็จทุกคนที่ยิ่งใหญ่ ล้วนถูกปฏิเสธทั้งนั้น เพราะสิ่งที่เขาทำนั้น มันคือสิ่งที่คนทั่วไปคิดไม่ถึง เเละมองไม่เห็นอย่างที่เขาเห็น มีเเค่เขาเท่านั้นที่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเรายังยืนหยัดในสิ่งที่เราเชื่อ เเน่นอนว่า เราก็จะได้รับผลของความสำเร็จนั้นเเน่นอน เเละผู้เขียนก็เชื่อว่ามันจะเป็นเช่นนั้นครับ นี่ก็เป็นข้อคิดที่ผมได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ หวังว่าผู้อ่านจะได้รับประโยชน์จากบทความนี้นะครับเครดิตรูปภาพ : ผู้เขียน (Golfmashare)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !