รีเซต

เจดีเซ็นทรัล มั่นใจช็อปปิ้งออนไลน์ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังคึกคัก - ทุ่มงบการตลาดเพิ่ม 2 เท่าอัดแคมเปญ

เจดีเซ็นทรัล มั่นใจช็อปปิ้งออนไลน์ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังคึกคัก - ทุ่มงบการตลาดเพิ่ม 2 เท่าอัดแคมเปญ
ข่าวสด
20 กันยายน 2564 ( 16:26 )
50

นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด เจดี เซ็นทรัล (JD CENTRAL) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซ หรือการซื้อสินค้าออนไลน์ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้จะยังคึกคัก และส่งผลให้ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้วมีอัตราการเติบโตถึง 50% หรือมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะผู้บริโภคคนไทยคุ้นเคยกับการจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และพฤติกรรมดังกล่าวจะยังมีอย่างต่อเนื่อง

 

 

สำหรับเจดี เซ็นทรัล ในปีนี้ได้ทุ่มงบการตลาดเพิ่มขึ้น 2 เท่า จัดแคมเปญการตลาดไปกว่า 1,000 แคมเปญในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแคมเปญจากเจดีเซ็นทรัลเอง และแคมเปญที่ทำร่วมกับแบรนด์และร้านค้าต่างๆ นอกจากนี้ เจดีเซ็นทรัลยังได้ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ในช่วงล็อกดาวน์มีแคมเปญพิเศษที่คิดมาเพื่อช่วยเหลือพันธมิตรทุกฝ่าย รวมถึงทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย โดยในเดือนก.ย.นี้ ครบรอบ 3 ปีที่ดำเนินธุรกิจในไทยในวันที่ 28 ก.ย. จะจัดแคมเปญทั้งแจกทั้งแถม ต่อเนื่องไปถึงไตรมาสสุดท้ายจะเพิ่มบริการร้านค้า และฟีเจอร์ต่างๆ

 

 

เพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมเปิดการให้บริการของร้านค้าทางการของแบรนด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก การเปิดตัวบริการใหม่ในชื่อ Instant JOY เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ on demand delivery ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การันตีส่งของเร็วภายใน 1 ชั่วโมง รวมไปถึงการขยายการให้บริการ E-Voucher ในส่วนของโรงพยาบาล ร้านอาหาร สปา และประกันชีวิต และการเพิ่มร้านค้าแบรนด์ดังๆ เข้ามาในแพลตฟอร์ม

 

 

“เจดีเซ็นทรัล เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 นับเป็นเวลา 3 ปี ที่ค่อยๆ เติบโต จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย มีตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่า 955% และเมื่อเดือนมิ.ย.ปีนี้ ได้ปรับกลยุทธ์ที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น โดยเน้นเรื่องสินค้าที่เป็นของแท้และความน่าเชื่อถือ ด้วยจุดยืนช็อปของดีการันตีของแท้ กับจอยชัวร์ ตัวจริง ปรากฏว่าผู้บริโภคมีการรับรู้และเกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเพิ่มสูงขึ้น 48% ขณะเดียวกันได้ฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม สินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ยอดการใช้จ่ายของลูกค้าต่อครั้งเพิ่มขึ้น 20% หรืออยู่ที่ 2,600-2,700 บาท”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง