ในช่วงปิดเทอมของผม ไม่ได้พิเศษเหมือนกับปิดเทอมของคนทั่วไป เพราะปิดเทอมของผมนั้น เป็นการอยู่บ้านธรรมดา ไม่ได้ไปไหนสักที เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้ จึงไม่สามารถออกไปไหนได้ ผมจึงคิดว่าจะหาอะไรทำสักอย่างอยู่บ้านแล้ว จึงจะไม่น่าเบื่อมากเกินไป เริ่มต้นการการดูซีรี่ย์ใน Netflix ก็ดูจนหมดแล้ว ทั้งดูภาพยนตร์ ดู YouTube ก็แล้ว แต่ก็ยังเบื่อเหมือนเดิม ในช่วงกลางเดือนมีนาคมผมจึงได้คิดว่าอยากหารายได้ จึงเริ่มไปสมัคร แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ ที่ทำงานหลายที่ ที่ผมสมัครไป ปิดชั่วคราว เพราะมีความสุ่มเสี่ยง จึงทำให้ผมต้องอยู่บ้านยาว ๆ ไม่มีอะไรทำ หลังจากอยู่บ้านมานาน ผมก็ไปเห็นโพสต์ของ TrueID In-Trend ที่เปิดรับสมัครนักเขียนมือใหม่ ผมจึงรีบสมัครและหาข้อมูลโดยทันที ผมไม่ได้ชอบเขียนอะไรมากมาย แต่ผมก็สามารถเล่าเรื่องได้อยู่พอสมควร ทำให้ผมมาสมัครเป็นนักเขียนของ TrueID In-Trend เพื่ออยากเล่าเรื่อง หรือเล่าประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ผมเริ่มต้นจากการเขียนส่งไปหลายบทมาก ๆ แต่ก็ไม่ผ่าน ผมจึงคิดว่าเป็นประสบการณ์จากการเขียน ในช่วงปิดเทอม เป็นการได้ฝึกฝนตัวเองไปในตัว ทาง TrueID In-Trend ถ้าเราเขียนบทความผ่าน จะได้เงินค่าขนม บทละ 100 บาท ทำให้ผมมีรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วงปิดเทอม ที่จะแบ่งเบาภาระคุณแม่ได้นิดหน่อย แต่สิ่งที่ผมได้จากการเป็นนักเขียนของ TrueID In-Trend นั้นมีค่ามากกว่าเงิน หลังจากผมเขียนไปเป็นเวลาเกือบเดือน มีนิสัยบางอย่างของผมที่เปลี่ยนไป ซึ่งได้มาจากการเรียนรู้จากการเป็นนักเขียนของ TrueID In-Trend เรามาดูกันดีกว่าว่าผมได้รับอะไรบ้าง จากการเขียนบทความ คิดอะไรก็เป็นเรื่องราวไปหมดไปหมดเครดิตภาพ : pixabay.com การที่เราเป็นนักเขียนบทความนั้น ต้องรู้จักการมองสิ่งเล็ก ๆ ให้ยิ่งใหญ่ โดยการมองสิ่งของรอบตัวเรา ให้สามารถนำมาสร้างเป็นบทความได้ แต่ก่อนผมไม่มีนิสัยการคิดแบบนี้ แต่พอได้มาเป็นนักเขียนของ TrueID In-Trend ความคิดของผมก็ได้เปลี่ยนไป โดยคิดว่าเราจะเขียนอะไรดี ให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน และคิดต่อยอดเรื่องต่าง ๆ ให้ออกมาจากประสบการณ์ของตัวเอง ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง เช่น ผมกับน้องไปตลาด พอผ่านสถานที่ต่าง ๆ ก็จะมองว่าจะนำมาเขียนบทความอย่างไร แต่ไม่ต้องเริ่มต้นจากไหนไกล เริ่มต้นจากสิ่งรอบตัวใกล้ตัวเรา ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรออกไป ก็ให้ลองมองสิ่งใกล้ ๆ ตัว ว่าเราเคยทำอะไรกับมัน เคยมีประสบการณ์อะไรจากมัน และนำมาเล่าเรื่องให้เป็นเรื่องราวได้ แม่ของผมได้ถามผมว่าทำไมเขียนเป็น ผมก็บอกว่าไม่ยากเลย แค่ใส่เรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง นำประสบการณ์กับของสิ่งนั้นมาใช้ และเล่าเป็นเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเอง ชอบถ่ายภาพเครดิตภาพ : pixabay.com ปกติผมจะไม่ชอบถ่ายภาพมาก ๆ บอกได้เลยว่าแอนตี้การถ่ายภาพไปเลยแหละ ปกติถ้าไปร้านอาหารร้านอะไร ผมจะไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปก่อนรับประทาน แต่ผมได้มาเขียนบทความกับ TrueID In-Trend นิสัยของผมก็ปรับเปลี่ยนไป โดยมีความชอบถ่ายภาพมากขึ้น ถ้าเราไปไหน มาไหน ไปทานอาหารร้านไหน ก็จะถ่ายภาพมาเก็บไว้ในโทรศัพท์ เพื่อนำมาเล่าเรื่อง รีวิว สิ่งต่าง ๆ ที่ได้เจอมา ผมเปลี่ยนไปมาก จากถ่ายรูปไม่สวย แต่ตอนนี้ก็ชอบถ่ายรูปมาก และเป็นการฝึกหัด ถ่ายรูปไปในตัวอีกด้วย ถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิต อีกอย่างการถ่ายรูป สามารถสร้างเป็น Timeline ความทรงจำของเราได้ ว่าวันนี้เราไปไหน ไปกับใคร ไปวันไหน เผื่อวันเก่า ๆ จะย้อนมาดูรูปภาพ และทำให้เกิดความคิดถึงมีการทำงานเป็นระบบและมีเป้าหมายมากยิ่งขึ้นเครดิตภาพ : pixabay.com หลายคนอาจมองว่าทำงานเป็นระบบและมีเป้าหมายมากขึ้น จะเกี่ยวอะไรกับการเขียนบทความ แต่สำหรับผม การเขียนบทความนั้น ให้สิ่งนี้กับผมมา แต่ก่อนผมทำงานไม่ค่อยเป็นระบบ และไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน พอได้มาเขียนผมก็เริ่มทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น เพราะการทำบทความเพื่อส่งให้ TrueID In-Trend ต้องทำงานอย่างหลายขั้นตอน เช่น ตรวจสอบคำผิด ใส่รูป จัดหน้ากระดาษ และอื่น ๆ ผมก็ได้ฝึกฝนสิ่งนี้ เริ่มต้นจากเขียนบทความไม่ผ่านเลยสักบท แต่เวลาผ่านมา ทำให้ผมเขียนบทความได้ผ่านอย่างง่ายได้ และมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น ในการตรวจสอบบทความความนั้น ต้องมีความรอบคอบ อย่างมาก ถ้าผิดไปตัวเดียวทำให้บทความไม่ผ่านได้ เพราะทางบรรณาธิการ ตรวจสอบอย่างละเอียด ในส่วนของเป้าหมาย ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะเขียนบทความส่ง TrueID In-Trend วันละ 2 บท ทำให้ผมมีเป้าหมายกว่าแต่ก่อนมาก หวังว่าจะเก็บเงินค่าขนมไปเรื่อย ๆ ออกไปเจอโลกภายนอกมากขึ้นเครดิตภาพ : pixabay.com การได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ทำให้เราได้มีไอเดียในการเขียนมากขึ้น ปกติผมจะเป็นคนที่ไม่ชอบออกจากบ้านมาก เพราะไม่ชอบคนเยอะ แต่ตอนนี้ทำให้นิสัยผมเปลี่ยนไปมาก เริ่มต้นจากการออกไปเดินตลาด หาไอเดียในการเขียนใหม่ ๆ และการที่ผมได้ออกไปข้างนอกนั้น ทำให้ผมได้รับความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ทางด้านสังคม ว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง อย่างเช่นวัดในชุมชนของผม ผมได้ไปหาไอเดียจากการเขียนที่วัด ทำให้ผมได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของวัด จากปกติจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย และในการเขียน ต้องหาข้อมูลอย่างมาก ทำให้ได้รับข้อมูลใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น ทำให้ผมเติบโตขึ้นมาก จากแต่ก่อน รู้จักรอเครดิตภาพ : pixabay.com ในการเขียนบทความกับ TrueID In-Trend กว่าบทความจะผ่าน ต้องรอหลายวันมาก ๆ 3-7 วันอย่างต่ำ หรือนานที่สุดก็คือ 10 วัน ผมก็เคยเจอมาแล้ว กว่าบทความจะอนุมัติ ถ้าเขียนผ่าน ถ้าเขียนตกหล่น ก็ต้องรอแก้ ทำให้รอนานไปอีก จากการเป็นนักเขียนของ TrueID In-Trend ทำให้ผมได้ฝึกการรอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีมาก ๆ เพราะถ้าเราใจร้อน และไม่รู้จักรอ จะทำให้เราไม่มีกำลังใจในการเขียน และอาจจะเลิกเขียนไปก็ได้ โดยผมคิดบวกเข้าไว้ มองว่า ไม่ใช่เราที่เขียนบทความคนเดียว มีคนจำนวนไม่น้อย หลายพันคน ที่เขียนบทความส่งเข้าไป กว่าจะมาถึงคิวเรา ก็ต้องรอ ไม่วู่วาม อย่างกับสุภาษิต ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เครดิตภาพ : pixabay.com ในการเขียนบทความนั้น เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มาก ๆ ปกติผมจะใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่มีเป้าหมายอะไร แต่วันนี้ผมได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ และสามารถจะไปสู่เป้าหมายได้ ถ้ามีความตั้งใจ ผมบอกตรง ๆ เลยว่า ผมใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากกว่าแต่ก่อนมาก ปกติผมจะนอนเล่นโทรศัพท์เฉย ๆ แต่วันนี้ผมก็เล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม แต่การเล่นโทรศัพท์ของผมนั้น เป็นการสร้างรายได้ หาค่าขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับตัวเอง เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่อีกด้วย พัฒนาความรู้ของตัวเองไปเรื่อย ๆ เครดิตภาพ : pixabay.com การเขียนบทความนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะอยู่กับที่ เราต้องหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ เพราะว่าจะเขียนในแต่ละเรื่องได้นั้น ต้องใช้ไอเดีย และความคิดอย่างมาก เงินที่ได้จากการเขียนนั้น ผมนำมาลงทุนต่อ เช่น ซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำให้สามารถเขียนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซื้อคีย์บอร์ดใหม่ในการพิมพ์ และที่สำคัญ ผมซื้อหนังสือในการสอนเทคนิคต่าง ๆ ในการเขียนบทความ เพื่อพัฒนาความรู้ไปเรื่อย ๆ เราจะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น ถ้าเราซื้อหนังสือมาอ่าน เป็นการพัฒนาตนเองอีกอย่างหนึ่งสำหรับผม คือการซื้อหนังสือมาอ่าน เป็นอย่างไรกันบ้างกับสิ่งที่ได้จากการมาเป็นนักเขียนของ TrueID In-Trend ผมขอขอบคุณบริษัท True เป็นอย่างมากที่ทำให้ผมได้มาเป็นนักเขียน เล่าประสบการณ์และแรงบันดาลใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผม ทำให้ผมได้มีพื้นที่ที่จะแบ่งบันสิ่งดีดี ให้กับทุกคนได้อ่าน และประสบการณ์ที่ผมได้จากการเป็นนักเขียนนี้ มันยิ่งใหญ่มาก ๆ สำหรับ ผมจะไม่มีวันนี้เลย ถ้าไม่ได้รับคำแนะนำและเทคนิคดีดีจากบรรณาธิการ ผมขอสัญญาว่า จะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อที่จะนำเรื่องราวดีดีแบบนี้ มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังไปเรื่อย ๆ ครับ บทความโดย : hitERlist เจ้าของบทความ ขอขอบคุณรูปภาพหน้าปก : pixabay.com เครดิต : [ บนซ้าย / ล่างซ้าย / บนขวา / ล่างขวา ]