เชื่อว่าหลายคน คงเคยผ่านชีวิตมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งการใช้ชีวิตในครอบครัว การใช้ชีวิตในโรงเรียน การใช้ชีวิตในที่ทำงาน และการใช้ชีวิตในสังคมอันโลกกว้าง ทุกช่วงเวลาของชีวิตเรามักจะเจอกับเหตุการณ์ต่างที่เข้ามาในชีวิตเรา มีทั้งเรื่องราวดี เรื่องราวไม่ดี เรื่องราวที่สอนบทเรียน รวมถึงเรื่องราวในการก้าวผิดพลาดในการเลือกเดิน ทางผู้เขียนเองก็เช่นกัน เคยผ่านเรื่องราวมามากมาย ในวัย 30 วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตในสังคมการทำงาน โดยการทำงานร่วมกับผู้คนมากมายในที่ทำงาน ในที่ทำงานเจอเพื่อนร่วมงานหลากหลายรูปแบบรวมถึงหัวหน้างาน ย้อนไปสมัยเรียนจบใหม่ๆ เป็นเด็กทีเพิ่งเรียนจบยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงาน ซึ่งสังคมการทำงานแน่นอน ตอนนั้นคิดว่ายิ่งเรามีผลงานเด่นเรายิ่งจะเด่นไปด้วย เรายิ่งจะมีเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน เวลามีงานจิตอาสาเราเป็นคนหนึ่งที่อาสาจะเข้าร่วมตลอดเพื่อหวังให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานและเป็นที่ยอมรับของหัวหน้างาน เราพยายามมาแบบนี้ประมาณ 5-6 ปี จนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น เราพึ่งรู้ว่ายิ่งที่เราพยายามไม่ได้มีผลดีกับตัวเองเลย โดยเฉพาะเวลาส่วนตัว เป็นเวลาพักผ่อน หรือเวลาที่จะไปเที่ยวไม่มีเลย ยิ่งเราทำตัวเด่นยิ่งเป็นที่พูดถึงในทางที่ดีและไม่ดี เรื่องราวที่คนอื่นพูดถึงเราไม่ดี เรามักจะนำกลับมาคิดมากเครียด กังวลในการใช้ชีวิตมากขึ้น จนเราเริ่มเก็บตัวเป็นที่สงสัยในกลุ่มเพื่อนและมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้เราไปพบกับแม่ชีท่านหนึ่ง เราก็ตกลงไปกับเพื่อนที่แนะนำไป พอไปถึงวัดเพื่อนก็พาเราไปพบกับแม่ชีแล้วเล่าเรื่องราวของเราให้แม่ชีฟัง หลังจากแม่ชีได้ฟังเรื่องราวของเราแล้ว ท่านก็แนะนำให้เราไม่ต้องทำอะไรที่เด่น ให้เราใช้ชีวิตปกติของเราไม่ต้องสนใจคนอื่น และที่สำคัญท่านได้พูดกับเราคำหนึ่งว่า การใช้ชีวิตในการทำงาน “ยิ่งเราเงียบเท่าไหร่ ยิ่งดี” โดยข้อดีของยิ่งเงียบยิ่งดีมีดังนี้ 1.สอนให้เราปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้รวดเร็ว เวลาที่เราเงียบ ฟังคนอื่นพูดหรือแสดงความคิดเห็นทำให้เราได้มุมมองในการใช้ชีวิตและที่สำคัญทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้นรวมถึงเข้าใจสถานการณ์ต่างๆที่เราเจอในแต่ละวันได้เร็วขึ้น ไม่ทำให้เราคิดมาก 2.ทำให้เรารู้ว่าการเงียบก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน บางทีการเงียบ ทำให้เราเด่นและประสบความสำเร็จได้เหมือนกันไม่จำเป็นต้องพยายามตัวเด่นให้เป็นที่ยอมรับของคนอื่นเสมอไป แค่คุณทำในหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องสนใจว่าใครจะเป็นอย่างไร จะเด่นแค่ไหน แค่เราเป็นตัวของตัวเองทำชีวิตให้มีความสุขพอเรามีความสุข มีรอยยิ้มมีเวลาให้ตัวเอง ทำให้ตัวเองดูดี สามารถเป็นที่ยอมรับของคนอื่นและสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน 3.ได้พัฒนาความคิดในแบบที่เราเป็น การที่เราพยายามวิ่งตามแต่ให้คนอื่นสนใจเรา ชื่นชอบเรา บางทีไม่ได้ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองเสมอไป นอกจากจะทำให้เราเสียเวลา เสียสุขภาพจิต และ ขาดโอกาสต่างๆแล้ว สุดท้ายแล้วเรื่องราวของหมดก็จะย้อนกลับมาหาเราถ้าผลตอบรับไม่ถูกใจเรา ฉะนั้นควรอยู่อย่างเงียบๆหาความรู้พัฒนาตัวเองในแบบที่เราเป็น จะทำให้เราสบายใจและมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ 4.ทำให้เราเป็นผู้ฟังและการสังเกตมากขึ้น เมื่อเราเงียบมากขึ้น เรายิ่งได้ฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากคนอื่นมากขึ้นแม้เรื่องเราที่เราได้ฟังและได้เห็นนั้นจะเป็นทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่ไม่ดี แต่เราแค่เลือกฟังแต่สิ่งที่ดีสิ่งที่ทำให้เราสบายใจและที่สำคัญการเงียบแล้วฟังคนอื่นและสังเกตคนอื่นบ้างทำให้เราได้เข้าใจคนอื่นมากขึ้นและทำให้เราได้คิดและปรับปรุงตัวเองได้ดีขึ้น 5.ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากกว่าความคาดหวังทางสังคมหรือเพื่อนร่วมงาน เมื่อเราเงียบ และไม่คาดหวังให้คนอื่นมาสนใจทำให้เราได้มีความสุขมากขึ้น ไม่ต้องมาคิดมากว่าคนนั้นคนนี้จะชอบเราไหม ไม่ต้องคิดจะแข่งกับใครให้ปวดหัวอีกต่อไป ดังนั้นจะเห็นว่าชีวิตคนเรานั้นไม่ต้องเป็นต้องทำตัวให้เด่นและเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้างทั้งหมดเสมอไป เพียงแค่เราเป็นแบบที่เราเป็นโดยไม่ต้องไปเดือดร้อนคนอื่น ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ทำชีวิตให้มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ ทำให้ตัวเองได้มีเวลาอยู่กับคนในครอบครัว ทำให้ตัวเองได้มีรอยยิ้มให้คนในครอบครัวแค่นั้นก็สุดเกินพอแล้ว เครดิตภาพ ภาพปก โดย Prasanth Inturi จาก pexels ภาพที่ 1 โดย Rizky Sabriansyah จาก pexels ภาพที่ 2 โดย Alex Pereyra จาก pexels ภาพที่ 3 โดย Alex Pereyra จาก pexels ภาพที่ 4 โดย Cedric Fauntleroy จาก pexels ภาพที่ 5 โดย Andre Furtado จาก pexels เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !