รีเซต

คณาจารย์พร้อมเพื่อนธรรมศาสตร์ นำตำราเรียนเยี่ยม'รุ้ง-เพนกวิน'พร้อมส่งทนายยื่นขอปล่อยตัว

คณาจารย์พร้อมเพื่อนธรรมศาสตร์ นำตำราเรียนเยี่ยม'รุ้ง-เพนกวิน'พร้อมส่งทนายยื่นขอปล่อยตัว
มติชน
26 ตุลาคม 2563 ( 13:52 )
170
คณาจารย์พร้อมเพื่อนธรรมศาสตร์ นำตำราเรียนเยี่ยม'รุ้ง-เพนกวิน'พร้อมส่งทนายยื่นขอปล่อยตัว

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าเยี่ยม น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน สองนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมอ่านแถลงการณ์คณาจารย์มหาวิทยาลัย เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาและประชาชนที่ถูกคุมขัง

 

นายประจักษ์ กล่าวว่า คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ติดตามการชุมนุมและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักศึกษาและประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งน.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง และนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงมาเยี่ยมนักศึกษาและประชาชนที่ถูกจับกุม ในส่วนที่เกี่ยวกับนักศึกษาคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีอำนาจเกยวข้องและสังคมดังต่อไปนี้

 

1.ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อนักศึกษาที่อยู่ในเรือนจำอย่างเป็นธรรมและดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษาตามหน้าที่อย่างดี เนื่องจากคณาอาจารย์มีความห่วงใยต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตในเรือนจำของนักศึกษาที่ถูกจับกุม นักศึกษาเหล่านี้เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหายังไม่ได้มีความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด โดยเฉพาะนักศึกษาที่กำลังศึกษาเล่าเรียน ขอให้พวกเขาสามารถเข้าถึงหนังสือ ตำราเรียนและคำบรรยายที่เพื่อนและคณาจารย์ส่งให้ เพื่อที่เขาจะได้ศึกษาเล่าเรียนไปพร้อมกับการทำหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย

 

2.ขอให้ศาลพิจารณาให้นักศึกษาได้รับการประกันตัว เนื่องจากนักศึกษามีภาระต้องเข้าเรียนนำเสนองานและสอบให้ครบตามกำหนด หากไม่ได้รับการประกันตัวจะกระทบต่อสถานภาพและอนาคตทางการศึกษาอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ทั้งน.ส.ปนัสยา และนายพริษฐ์ มีโรคประจำตัว หากถูกกักขังในเรือนจำแออัด อาจทำให้เกิดอาการกำเริบของโรคจนเป็นอันตราย

 

3.ขอเรียกร้องให้สังคมเคารพการแสดงออกของนักศึกษา หยุดสร้างวาทกรรมเกลียดชังหรือการยุยง ปลุกปั่น ด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จต่อการชุมนุมเคลื่อนไหวของนักศึกษา ซึ่งมีแนวโน้มที่จะนำสังคมไปสู่หนทางแห่งความรุนแรง สังคมควรตระหนักว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษาเป็นการใช้สิทธิตามหน้าที่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย เฉกเช่นเดียวกับผู้ชุมนุมชุมนุมกลุ่มอื่น ๆ ทั้งที่เห็นต่างและเห็นตรงกับนักศึกษา

 

นายประจักษ์ กล่าวว่า คณาจารย์และเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้มาติดต่อขอเข้าเยี่ยมรุ้งและเพนกวิน โดยนำตำราเอกสารประกอบการเรียนและหนังสือมามอบให้ทั้งสอง ขณะนี้เพนกวินถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนรุ้งถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ที่ผ่านมามีเพียงทนายความเท่านั้นที่ได้เข้าเยี่ยม ขณะที่ผู้ปกครองและอาจารย์ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม จึงเป็นห่วงเรื่องการเรียนและได้นำหนังสือและเอกสารการเรียนมามอบให้

 

นอกจากนี้ ทั้งสองคนมีโรคประจำตัวโดยเพนกวิน เป็นโรคโรคหืดหอบ ขณะที่รุ้งเป็นโรคไมเกรน จึงมาพร้อมทนายความและผู้ปกครองของทั้งสองคน พร้อมนำหนังสือขอความอนุเคราะห์เข้าเยี่ยมจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาให้เรือนจำพิจารณา

 

นายประจักษ์ กล่าวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งยกคำร้องไม่ให้ประกันตัวทั้ง 2 คน วันนี้ทนายความจะยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวอีกครั้ง หากเทียบเคียงกับการที่ศาลปล่อยชั่วคราวไผ่ดาวดินแล้ว ไม่มีการกำหนดเงื่อนไข หวังว่าทั้งเพนกวินและรุ้งจะได้รับบรรทัดฐานเดียวกัน คือ การปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไข การชุมนุมของนักศึกษาเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธี ไม่มีความวุ่นวาย หากตำรวจไม่มากดดัน เด็ก ๆ ก็จะประกาศยุติการชุมนุมเอง การชุมนุมของนักศึกษาเป็นการแสดงออกทางความคิด ไม่ใช่การก่ออาชญากรรมร้ายแรง เป็นการต่อสู้เพื่อปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น ถ้าทุกฝ่ายเคารพการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เราจะไม่เห็นการสลายการชุมนุมเหมือนอย่างเช่นวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา หวังว่ารัฐจะได้รับบทเรียนแล้วว่ายิ่งใช้ความรุนแรงกับนักศึกษาคนก็จะมาร่วมชุมนุมมากขึ้น กรณีม็อบชนม็อบเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะในอดีตเหตุการณ์วันที่ 6 ต.ค.19 มีการปลุกระดมความเกลียดชังนักศึกษา ปลุกม็อบขึ้นมาชนม็อบ หวังว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีความเห็นต่างทางการเมือง การเคลื่อนไหวของนักศึกษาเป็นไปอย่างสงบสันติ แต่หากมีการปลุกม็อบมาชนม็อบอย่างเช่น กรณีที่มีการทำร้ายนักศึกษารามคำแหงด้วยการทุ่มลำโพงจนได้รับบาดเจ็บนั้น รัฐต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง