ช่วงนี้หลายบริษัทมีนโยบาย Work from Home กัน เพราะต้องการลดการแพร่ระบาดของโควิด19 รวมถึงบริษัทผมด้วยที่ให้พนักงาน WFH ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม พร้อมประกาศให้พนักงานทราบล่วงหน้าว่าบริษัทกำลังจะปิดกิจการในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะพิษเศรษฐกิจ รวมถึงโควิด19 ทำให้ผมต้องรีบเคลียร์งานต่าง ๆ ที่ออฟฟิศให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมตัว WFH กันยาว ๆ เลยคิดว่าควรกลับบ้านต่างจังหวัดดีกว่า เพราะไหน ๆ ก็กำลังจะตกงานแล้วด้วย ถือเป็นการกลับไปชาร์จพลังเพิ่มเติม เพื่อกลับมาลุยหางานกันต่อหลังโควิด19 คลี่คลาย จากนั้นผมก็เลยรีบจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน แต่โชคร้ายคือ ทุกสายการบินหยุดบินไปจังหวัดบ้านเกิดผมกันหมดแล้ว จึงเหลือแค่สายการบินนกแอร์เพียงสายเดียวเท่านั้น ผมก็เลยรีบจองตั๋วทันที เพราะกลัวว่านกแอร์จะหยุดบินด้วยเหมือนกัน ก็เข้าแอปเลือกเส้นทางปกติ แต่พอมาถึงขั้นตอนที่ให้เลือกที่นั่ง ผมเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ละ ว่าทำไมมันมีให้เลือกแค่ แถวละ 4 ที่นั่งเอง ซ้าย 2 ขวา 2 ปกติแล้วต้องเป็นแถวละ 6 สิ ซ้าย 3 ขวา 3 ไรงี้ ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าคงนโยบาย Social Distancing ของสายการบินล่ะมั้ง (ไม่เอะใจเลยจริง ๆ )เมื่อวันเดินทางมาถึง ผมก็รีบตื่นตั้งแต่เช้าโบกแท็กซี่หน้าหอ เพื่อจะไปสนามบินให้เร็วที่สุด เพราะคิดว่าคงจะมีขั้นตอนตรวจเช็คต่าง ๆ หลายขั้นแน่เลย กว่าจะได้ขึ้นเครื่องบิน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสนามบินดอนเมือง เพราะถนนโล่งมากช่วงนี้ พอย่างเข้ามาในสนามบินเท่านั้นแหละ โหหหห เงียบมาก ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย มีเพียงเคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินนกแอร์เท่านั้นที่เปิดอยู่ สายอื่นปิดไฟมืดมิด จากนั้นผมก็เช็คอินปกติ แล้วรีบเดินเข้า Gate ระหว่างนั้นก็ไม่มีการตรวจอะไรเป็นพิเศษเลยนะครับ รู้สึกว่าก็ปกติ ไม่มีการซักประวัติ วัดไข้ อะไรเลยแต่ระหว่างทางกว่าจะถึง Gate 71 ของผมเนี่ยะ ช่างเงียบเหงา วังเวงอะไรขนาดนั้น คือไม่มีคนเลย หรือว่าผมจะไปถึงเช้าเกินไปก็ไม่รู้ พอมาถึงหน้า Gate ก็เจอผู้โดยสารท่านอื่นอยู่ประมาณ 5 คนพอใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องก็เริ่มเห็นกราวน์ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กัปตัน มาเตรียมพร้อมอยู่หน้า Gate เพื่อจะเตรียมตัวเช็คผู้โดยสารอีกหนึ่งรอบก่อนขึ้นเครื่องนั่นเอง โดยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และกัปตัน จะขึ้นรถไปที่เครื่องบินก่อนผู้โดยสารประมาณ 30 นาที เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่องของผมสักที หลังจากนั่งรอมาเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็น Bus Gate ทำให้ผมต้องขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน แทนที่จะเป็นงวงช้างแล้วเดินขึ้นเครื่องได้เลย ระหว่างทางนั้นก็ได้เห็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนที่เครื่องบินของแต่ละสายการบินจอดเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด โดยปกติแล้วสนามบินดอนเมืองจะมีเครื่องบินขึ้นลงตลอดเวลาเลยนะครับ แถมเครื่องที่จอดเทียบท่าก็ไม่เคยเยอะแบบนี้มาก่อนหลังจากบัสพาวนไปเรื่อย ๆ ผมก็มองเครื่องบินไปเพลิน ๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบเครื่องบิน แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อบัสมาจอดอยู่หน้าเครื่องบินใบพัด ของนกแอร์รุ่น Q400 แล้วประตูบัสก็เปิดลง ผมก็คิดขึ้นมาได้อัตโนมัติเลยว่า อ่อออ ที่เห็นมีแถวละ 4 ที่นั่งให้เลือก ตอนจองตั๋วนั้น ที่แท้มันคือเครื่องบินขนาดเล็กนั่นเองเพราผู้โดยสารน้อย ก็เลยอุทานเบา ๆ ขึ้นมาในใจว่า "เฮีย! ทำไมตัวเองโง่จัง" บอกก่อนเลยว่าผมเป็นคนกลัวความสูง แล้วไม่เคยนั่งเครื่องบินใบพัดมาก่อน เคยแต่อ่านรีวิวเอา ซึ่งส่วนใหญ่คำที่เห็นในรีวิวนั้นก็คือคำว่า "เสียว" เป็นส่วนใหญ่ แต่ทำไงได้ในเมื่อตอนนี้ผมนั้น ขึ้นมานั่งรัดเข็มขัดเตรียมพร้อมสำหรับการทะยานขึ้นฟ้าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว ตอนแอร์สาธิตเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ บนเครื่อง บอกได้เลยว่า ผมนี่นั่งตั้งใจฟังสุด ๆ ยิ่งกว่าตอนเรียนหนังสืออีกนะบอกเลยเมื่อสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง บอกได้คำเดียวเลยครับว่า โล่งงงงง! ย้อนกลับไปสักนิดตอนเครื่อง Take Off จริง ๆ ผมว่ามันก็ไม่ได้แตกต่างจากเครื่องบินปกติที่เคยนั่งเลยนะครับ แถมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดด้วย จริง ๆ แล้วไฟลท์นี้จะต้องมีการแจกน้ำเปล่าด้วย แต่เพราะโควิด19 ก็เลยต้องปัดทิ้งไป ซึ่งเป็นนโยบายของทางสายการบิน แล้วแต่ละที่นั่งก็มีเพียงแถวละ 2 คนเท่านั้น ซ้ายหนึ่งคนริมหน้าต่าง ขวาอีกหนึ่งคนริมหน้าต่าง สอดคล้องกับมาตรการ Social Distancing ได้เป็นอย่างดี ผมก็นั่งชมวิวอ่าวไทยไปเรื่อย ๆ เพราะรู้สึกว่าพอมองจากมุมนี้แล้วมันสวยแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ เมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง แอร์ก็นำเอกสารมาให้กรอก เหมือนเป็นการคัดกรองเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่ากำลังจะเดินทางไปไหน เที่ยวบินอะไร มีอาการอะไรมาบ้างก่อนหน้านี้สัญญาณรัดเข็มขัดดังขึ้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการเตือนว่ากำลังจะ Landing ลงจุดหมายปลายทางแล้ว ผมยิ้มร่าเลยครับเพราะรู้สึกว่าเครื่องบินใบพัดมันก็ชิลเหมือนกันนะ แต่ก็ยิ้มได้ไม่นานจริง ๆ เมื่อเครื่องต้องฝ่าฝูงเมฆก้อนหนาระหว่าง Landing ตอนนั้นคือเครื่องสั่นแรงมาก แถมรอบข้างยังขาวโพลนไปด้วยเมฆ ผมนี่รีบงัดยาดมออกมาดมแทบไม่ทัน เหมือนเป็นการรับน้องผมเข้าให้แล้ว เพราะนี่เป็นการนั่งเครื่องบินใบพัดครั้งแรกของผมด้วย จำความรู้สึกตอนนั้นได้ดีเลยว่า ความหมายที่แท้จริงของคำว่า "เสียว" นั้นเป็นยังไง สุดท้ายก็ถึงจังหวัดตรัง บ้านเกิดของผมโดยสวัสดิภาพ เล่นเอาลุ้นแทบแย่สุดท้ายนี้ผมอยากบอกว่า นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของผมคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเพื่อดิสเครดิต หรือใส่ร้ายให้กับทางสายการบินนะครับ เพราะจริง ๆ แล้วนั้น สายการบินก็ได้ใช้เครื่องใบพัดทำการบินเป็นปกติอยู่ก่อนแล้ว นี่เป็นเพียงความรู้สึกของคนที่ขึ้นเครื่องแบบนี้ครั้งแรกเท่านั้น ท่านอื่น ๆ อาจจะไม่ได้รู้สึกเหมือนกันกับผมก็ได้นะครับ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณสายการบินนกแอร์ ที่พาผมกลับบ้านได้อย่างสวัสดิภาพ และขอให้กำลังใจทุกสายการบินฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดีนะครับ แล้วรีบกลับมาให้บริการตามปกติโดยเร็วนะครับ พวกเรารออยู่เครดิตรูปภาพทั้งหมดจากเจ้าของบทความ