เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมามีการประชุมโอเปคของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกนำโดยซาอุดีอาระเบีย เพื่อกำหนดราคาตลาดน้ำมันใหม่ ซึ่งทางโอเปกได้ขอความร่วมมือจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันให้ลดปริมาณการผลิตลง 1.5 ล้านบาร์เลรต่อวัน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว บวกกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรง ทำให้มีการใช้น้ำมันในปริมาณที่ลดลงอย่างรวดเร็ว การที่กลุ่มประเทศโอเปกต้องการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงนั้นก็เพื่อพยุงราคาน้ำมันไม่ให้มีราคาที่ต่ำจนเกินไป และผลของการประชุมในวันนั้นประเทศรัสเซีย ผู้เป็นประเทศพันธมิตนอกกลุ่มโอเปก และเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ไม่ยอมทำตามข้อตกลงของโอเปก ซึ่งทางรัสเซียได้กล่าวว่า "รัสเซียได้ช่วยโอเปกลดกำลังการผลิตมา 3 ปีติดต่อกันแล้ว แค่นี้รายได้ก็หายไปเยอะแล้ว" จึงทำให้รัสเซียและโอเปกไม่สารถตกลงกันได้ในเรื่องการลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ภาพจาก : pixabay.com หลังจากจบการประชุมในวันนั้นประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่รองจากรัสเซีย ได้ประกาศเปิดสงครามราคาน้ำมันดิบโลกทันที ด้วยการลดราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า และเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกเป็น 10 ล้านบาร์เลรต่อวัน จากที่เคยผลิตได้ 9.7 ล้านบาร์เลรต่อวัน จึงทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจนล้นตลาด ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบทั่วโลกมีราคาที่ลดต่ำลง กระทบถึงราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานทั่วโลกดิ่งลงเหวกันหนักมาก สังเวยให้กับราคาน้ำมันที่ถูกลงอย่างรุนแรง ซึ่งแน่นอนหุ้นในกลุ่มพลังงานของไทย (PTT) ติดลบกันระนาว ในวันที่ 9 มีนาคม 63 ที่ผ่านมา ส่วนหุ้นของไทยตัวอื่นที่ได้ผลลบในครั้งนี้ยังมีอีกเยอะเช่น หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน, กลุ่มปิโตรเคมี, ทรัพยากร, ธนาคาร แต่ก็มีหุ้นไทยที่ได้รับอานิสงส์จากการลดราคาน้ำมันโลกครั้งนี้ก็มีเหมือนกัน อย่างหุ้นที่เกี่ยวกับการคมนาคมขนส่ง เช่น สายการบิน กลุ่มการขนส่งทางเรือ กลุ่มโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ภาพจาก : pixabay.com ซึ่งหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียออกมาประกาศสงครามราคาน้ำมันผ่านไป 2 วัน รัสเซียก็ออกมาประกาศรับสู้!! โดยรัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า "รัสเซียจะพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดน้ำมันด้วยความสามารถ และราคาต้นทุนที่แข่งขันได้ไม่ว่าราคาน้ำมันจะไปอยู่ที่เท่าไหร่ก็ตาม ก็จะสู้ ! " ดูเหมือนรัสเซียจะไม่ยอมถอยง่ายๆ และไม่สนความสัมพันธ์ตลอด 3 ปีที่เคยพยุงราคาน้ำมันด้วยกันมา หากรัสเซียไม่ยอมจับมือกับซาอุดีอาระเบีย หรือยอมลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง น้ำมันที่ผลิตออกมาจะต้องล้นตลาดแน่ๆ และราคาก็จะถูกลงถูกลงไปอีก ทั้งสองประเทศก็อาจจะขาดทุนกันไปทั้งคู่ และราคาน้ำมันก็จะอยู่ในระดับราคาที่ถูกลงไปอีกนาน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครขาดทุนมากหรือน้อย ก็ต้องดูจากต้นทุนต่างจากการขุดเจาะน้ำมันออกจากหลุมของแต่ละปาะเทศครับ โดยซาอุดีอาระเบียมีต้นทุนถูกที่สุดคือ 5-9 เหรียญต่อบาร์เรล / รัสเซีย 15-20 เหรียญต่อบาร์เรล / สหรัฐฯ 30-50 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งสหรัฐใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการขุดเจาะ ต่อมาก็ต้นทุนรายจ่ายของประเทศนั้นๆครับ ซึ่งซาอุดีอาระเบียต้องรักษารายได้และควาบคุมรายจ่ายให้ดีเพราะต้นทุนน้ำมันราคาถูกที่สุด ภาพจาก : pixabay.com ต่อมาเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดน้ำมัน ถ้าดูจากปริมาณประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดตามลำดับคือ (1)สหรัฐฯ (2)รัสเซีย (3)ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งแต่ละประเทศจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบต่างกันครับ ด้วยทรัพยากรน้ำมัน เทคโนโลยีในการขุดเจาะ และราคาขายน้ำมันดิบของแต่ละประเทศผู้ผลิต ถ้าราคาน้ำมันตลาดโลกถูกลง ราคาน้ำมันทั่วโลกก็จะถูงลงตามด้วย ขึ้นอยู่กับการบริหารราคา, รายได้, ค่าใช้จ่ายของในแต่ละประเทศด้วย ภาพจาก : pixabay.com มาดูผลกระทบในเมืองไทยเรากันบ้างครับ นอกจากที่หลายๆคนจะได้เติมน้ำมันกันในราคาถูกลงแล้วตลาดหุ้นดิ่งลงแล้ว ยังจะได้รับผลกระทบอะไรอื่นอีกบ้าง เริ่มจากปั้มน้ำมันก่อน ถ้าน้ำมันถูกลงเรื่อยๆสำหรับปั้มน้ำมันที่สต๊อกน้ำมันไว้เยอะก่อนหน้านี้ในราคาที่แพงกว่า แล้วอยู่ๆมาขายถูกลง สำหรับปั้มน้ำมันบางแห่งที่หมุนเงินไม่ทันอาจจะถึงกับเจ๊งไปเลยก็ได้นะ เพราะต้องขายขาดทุน.. แน่นอนว่าต้นทุนของน้ำมันกว่าจะมาถึงปั้มนี้ต้องจ่ายหลายอย่างมาก และยิ่งช่วงโควิด-19 ระบาดอีก คนก็ไม่ค่อยออกไปไหนถึงแม้น้ำมันจะราคาถูกลง แต่คนก็จะใช่เงินเติมน้ำมันกันน้อยลง ในขณะที่ปั้มน้ำมันก็ยังต้องมีภาระค่าใช่จ่ายอยู่ตลอดทุกวัน อีกอย่างไทยเราก็นำเข้าน้ำมันจากประเทศสิงคโปร์ จึงต้องอ้างอิงราคาตลาดน้ำมันสิงคโปร์ ผลกระทบที่จะตกกับตัวเราก็คงเป็นเรื่องของข้าวของแพงขึ้น หรือราคาเท่าเดิมแต่ได้ปริมาณลดลง เพราะเข้าสู่หน้าร้อนและแห้งแล้ง ถึงแม้ราคาน้ำมันในประเทศไทยจะลดลง แต่ราคาราคาสินค้า, อาหาร สิ่งของอุปโภคบริโภคไม่ปรับลดลงตาม ถ้าหากกินระยะเวลายาวนาน ต่อไปไทยเราอาจประสบปัญหาเงินเพ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคตก็เป็นได้ครับ ก็อยากให้ทุกคนประหยัดเงินเอาไว้ดีแล้วครับ ใช้เท่าที่ควรใช้คิดวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าหลายๆเดือนก็เป็นการดีครับ บทความโดย : กัมบี้บ็อกซ์ ภาพประกอบทั้งหมดจาก : pixabay.com