'ชลประทาน' เร่งซ่อมถนนคันคลองพัง ส่วนที่พังกว้างขึ้นเป็น 10 เมตรแล้ว ท้ายน้ำเจอผลกระทบ

จากกรณีที่ช่วงดึกวันที่ 17 ตุลาคม เกิดเหตุถนนคันคลองชลประทาน ใกล้กับประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ 7 ต.รางจรเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกมวลน้ำจากแม่น้ำน้อยที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ ต.รางจรเข้ กัดเซาะทำให้ถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 5 เมตร มวลน้ำกว่า 90 ลบ.ม./วินาที ไหลทะลักลงสู่คลองเจ้าเจ็ดบางยี่หน ในพื้นที่ อ.เสนา ตอนล่าง อ.บางซ้าย อ.ลาดบัวหลวง

ล่าสุด วันที่ 18 ตุลาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ นำรถแบ๊กโฮ รถบรรทุกหิน รถบรรทุกดิน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือหนัก เจ้าหน้าที่ทหาร ม.พัน 27 พล ม.2 รอ. เร่งดำเนินการนำหินบรรจุใส่ตาข่ายเหล็กเพื่อวางแนวปิดกั้นจุดที่ถนนทรุดตัว

พบว่าแนวถนนที่เกิดการทรุดตัวได้ขยายวงกว้างขึ้น จากเดิม 5 เมตร เป็น 10 เมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลทะลักเพิ่มขึ้นเป็น 100 ลบ.ม./ต่อวินาที เจ้าหน้าเร่งนำหินทิ้งในจุดขอบถนนทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันการกัดเซาะเพิ่มเติม

นายประพิศกล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจาก นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กรมชลประทานได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์เร่งปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลลงไปสู้พื้นที่ด้านท้าย 3 อำเภอ ซึ่งมีน้ำท่วมสูงอยู่แล้ว แต่ด้วยสภาพพื้นที่แคบ การเข้าทำงาน การขนอุปกรณ์เข้ามาไม่สะดวก อาจจะให้การทำงานล่าช้า แต่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนติดกับคลองเจ้าเจ็ดในพื้นที่ ต. เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ซม. จากเดิมที่มีน้ำท่วมอยู่แล้ว

นายสมคิด เกิดทรง อายุ 68 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.เจ้าเจ็ด อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องขนยายกรงสุนัข พ่อและแม่พันธุ์บางแก้ว จำนวน 6 ตัว ที่เลี้ยงไว้ในกรงแขวนไว้ใต้ถุนบ้าน เพราะระดับน้ำไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้านแล้ว ทั้งนี้ หลังจากถนนถูกน้ำกัดเซาะจนพังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก น้ำในคลองเจ้าเจ็ดไหลแรง ปกติจะไม่ล้นมาท่วมถนน แต่วันนี้น้ำเริ่มท่วมแล้ว