"รัฐบาลญี่ปุ่น"กระจายข้าวสำรองราคาถูกสู่ชนบท

หลังจากรัฐบาลเริ่มโครงการขายข้าวสำรองรูปแบบใหม่เมื่อวันจันทร์ (26 พ.ค.) มีบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ประมาณ 70 รายยื่นคำขอซื้อข้าวรวมปริมาณกว่า 200,000 ตัน หรือประมาณ 2 ใน 3 ของข้าวสำรองทั้งหมด 300,000 ตันที่เปิดขาย ส่งผลให้กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงต้องหยุดรับคำสั่งซื้อในคืนวันอังคาร และประกาศจัดสรรส่วนที่เหลืออีก 100,000 ตันให้แก่ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กและร้านค้าข้าวในชุมชน โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดรับคำขอซื้อในวันศุกร์นี้ และรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่ง

ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีเกษตรคนใหม่ของญี่ปุ่น กล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ข้าวสำรองเข้าถึงผู้คนในพื้นที่ชนบทให้มากที่สุด พร้อมย้ำว่า รัฐบาลจะกำหนดข้อจำกัดการซื้อสำหรับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ โดยปัจจุบัน กระทรวงจำกัดเฉพาะผู้ค้าที่มีปริมาณการซื้อขายข้าวตั้งแต่ 10,000 ตันต่อปีขึ้นไป

นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากราคาข้าวในตลาดที่พุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลได้ขายข้าวสำรองผ่านการประมูล แต่ไม่สามารถควบคุมราคาที่พุ่งขึ้นได้ รัฐบาลจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีขายตรงให้กับผู้ค้าปลีกแทน

จากข้อมูลของกระทรวง ผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่อย่าง Aeon Co. และ Ito-Yokado Co. รวมถึงกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง Rakuten Group Inc. ต่างแห่เข้าซื้อข้าวสำรอง โดยส่วนใหญ่เลือกข้าวเก็บเกี่ยวปี 2565 ทำให้ข้าวปี 2564 ที่ยังเหลือจะถูกจัดสรรให้กับร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งคาดว่าจะขายในราคาประมาณ 1,800 เยน (ราว 400 บาท) ต่อ 5 กิโลกรัม หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของราคาข้าวในตลาดปัจจุบัน

ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีข้าวสำรองรวม 910,000 ตัน โดยได้ปล่อยออกไปแล้ว 312,000 ตันผ่านการประมูล 3 รอบในเดือนมี.คและเม.ย. และขณะนี้เตรียมปล่อยอีกครึ่งหนึ่งของที่เหลืออยู่จำนวน 600,000 ตัน