รีเซต

มีแต่อุปสรรควิ่งเข้ามา ทำอนาคต Tesla ไม่แน่นอน

มีแต่อุปสรรควิ่งเข้ามา ทำอนาคต Tesla ไม่แน่นอน
TNN ช่อง16
24 พฤษภาคม 2568 ( 01:03 )
13

อนาคตของเทสลา (Tesla) ดูเหมือนจะไม่มีความแน่นอนเอาซะเหลือ เพราะนับตั้งแต่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท เข้าไปมีส่วนในความเคลื่อนไหวทางการเมือง สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการกระทำที่โหดร้ายของเขาในฐานะ DOGE ไล่ข้าราชการที่ไม่จำเป็นออกจากงาน และอีกหลาย ๆ พฤติกรรม ทำให้ไม่แม้แต่คนสหรัฐฯบางส่วน แต่ทำให้คนทั้งโลกหันหลังให้กับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของเขาที่เคยได้รับความนิยม สะท้อนได้จากยอดขายของเทสลา (Tesla) ที่ลดลงทุกหนทุกแห่ง ซึ่งนักวิเคราะห์ นักวิจารณ์ รวมถึงสื่อต่างตั้งคำถามว่า บริษัทจะไปรอดหรือไม่

แม้ว่ายอดขายของรถบรรทุกที่ย่ำแย่และกลยุทธ์การตลาดที่เปลี่ยนไปของบริษัท จะบ่งชี้ถึงภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่สื่ออย่าง USA Today และ CNN แสดงความคิดเห็นว่ากำไรที่ลดลงและชื่อเสียงที่ถูกลดทอนจากการกระทำของมัสก์ กำลังส่งผลเสียต่อแบรนด์ เพราะอย่างยอดขาย Cybertruck กว่า 10,000 คัน ที่ยังขายไม่ออก จอดอยู่ในลานจอดทั่วสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 26,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ในอังกฤษ รถ Cybertruck ที่นำเข้าโดยเอกชน กลับถูกตำรวจอังกฤษทำการยึด ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของบริษัทดูไม่ดีนัก เพราะก่อนหน้านี้ก็มีรายงานระบุว่ารถ Cybertruck ถูกห้ามจำหน่ายในประเทศ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และน้ำหนักเกิน รวมถึงมีขอบโลหะที่แหลมคมซึ่งอาจเป็นอันตรายได้

แม้ว่าเทสลา (Tesla) จะฝากความหวังไว้กับ Model Y ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่และเพิ่งเปิดตัว แต่กระแสต่อต้านเจ้าของบริษัท ก็ทำให้ Model Y หลายร้อยคันจอดอยู่นิ่ง ๆ ให้ฝุ่นจับ ไม่สามารถขายหมดตามที่บริษัทคาดไว้ในตอนแรก ยอดขายลดลง 75% ในเนเธอร์แลนด์ และ 62% ในสหราชอาณาจักร เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2024 ในขณะที่ในเยอรมนี ยอดขายรถยนต์ของเทสลา (Tesla) ก็ตกต่ำลงอย่างมากเมื่อเทียบกับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย ตามการรายงานของฟอร์บส์ 

เช่นเดียวกับยอดขายของในจีนลดลง 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ดูตัวเลขอาจจะเล็กน้อย แต่จีนนับเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับแบรนด์รถยนต์ EV ของอเมริกา ดังนั้นยอดขายที่ลดลงจึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจ

ฟอร์บส์ ยังรายงานอีกว่า แม้เทสลา (Tesla) จะอยากฟื้นสถานการณ์ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติขั้นสูง ในรถรุ่น Model 3 และ Model Y รุ่นใหม่ แต่เพียงพอที่จะต้านทานความร้อนแรงของกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากจีนและเกาหลีใต้ได้หรือไม่ โดย Will Lockett นักข่าวที่ติดตามเรื่องนี้ (ซึ่งเขาเคยเป็นวิศวกรมาก่อนด้วย) ได้ตั้งคำถามว่า แม้ว่า Model 3 จะเป็นรถ EV ที่สามารถใช้งานได้จริง แต่ Kia EV3 ก็ลดราคาลงประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในบางตลาดรวมถึงสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ Kia ยังมีการตกแต่งภายในที่มีคุณภาพสูงกว่าและชาร์จไฟได้เร็วเท่ากับ Tesla อีกด้วย 

ในขณะเดียวกัน แซม อีวานซ์ ยูทูบเบอร์ชื่อดังในออสเตรเลีย ที่มีชื่อช่องว่า Electric Viking กล่าวว่า เขาได้ยกเลิกคำสั่งซื้อรถเทสลา Model Y แล้วหันไปเลือกใช้ XPeng G6 ที่ผลิตในจีนแทน ซึ่งมีขนาดเท่ากับ Model Yและสร้างขึ้นโดยเทคนิคลักษณะเดียวกัน นอกจากปัจจัยสำคัญยังอยู่ที่ราคา เพราะในออสเตรเลีย สามารถซื้อ XPeng G6 ที่วิ่งได้ระยะไกลได้ในราคา 59,800 ดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่ราคาที่ใกล้เคียงกันนี้ (58,900 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) จะได้รุ่นกลางของเทสลา (Tesla) เท่านั้น ซึ่งหากจะได้เทสลา (Tesla) รุ่นระยะไกล จะต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีก 10,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

นอกจากเทสลายังต้องเผชิญกับปัญหามาตรการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก (Rare Earth) ของจีน กลายเป็นข้อกังวลอันใหญ่หลวง ที่จะกระทบสายพานผลิตหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ “ออพทิมัส (Optimus)” อีก 

ทั้งปัญหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ว่าจะรุ่นก็ขายไม่ออก ยอดตกทุกพื้นที่ ปัญหาหุ่นยนต์ที่ถูกคุมแรร์หายากจากจีน ปัญหาชื่อเสียงของอีลอน มัสก์ ที่เกิดจากพฤติกรรมของเขา ส่งผลกระทบต่อรายได้และความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างปฏิเสธไม่ได้ คงต้องมาลุ้นกันว่า บริษัทจะหาทางแก้อย่างไร เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้มากเท่าไหร่ ความแน่นอนของอนาคตบริษัทก็ยิ่งไม่แน่นอนเท่านั้น 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง