เครดิตภาพจาก pixabay.com สวัสดีครับวันนี้ผู้เขียนมีเรื่องดีดีมานำเสนออีกแล้วครับท่าน...มามาดูกัน พบกับคำถามแรก คำถาม : ทานคืออะไร และมีจุดมุ่งหมายของการให้ทานเพื่ออะไร...(ให้เวลาคิดคำตอบ 2 นาที) เอ้า...ตัวช่วย ก.ทาน คือ การให้ ข.ทาน คือ การสละ ค.ทาน คือ การสั่งสมบุญบารมี ง.ทาน คือ การให้สิ่งของแก่ผู้อื่นเพื่อลดความตระหนี่ใจในตน ...ขอบคุณสำหรับคำตอบที่ถาโถมเข้ามาอย่างท่วมท้น (อิอิ..) มาเฉลยเลยแล้วกันครับว่าทาน คือ อะไร และมีจุดมุ่งหมายในการให้ทานเพื่ออะไร เครดิตภาพจาก pixabay.com คำตอบ : ทาน คือ การให้สิ่งของที่ตนเป็นเจ้าของแก่ผู้อื่น คำว่าผู้อื่นในที่นี้หมายรวมถึง คน สัตว์ เทวดา ภูติ ผี ปีศาจ หรือโอปปาติกะ (ผู้เกิดผุดขึ้นโดยอาศัยอดีตกรรม ไม่ต้องมีพ่อแม่ ตายก็ไม่มีซากปรากฏ ได้แก่ เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกายเหล่านี้ เป็นต้น) โดยประกอบด้วยจิตใจที่เสียสละ ไม่หวงไว้บริโภคแต่ผู้เดียว ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แต่มุ่งเน้นประโยชน์ของผู้อื่นเป็นหลัง อย่างนี้เรียกว่า การให้ทาน แต่ท่านทราบหรือไม่ครับว่าทานไม่ใช่แค่การสละสิ่งของที่ตนเป็นเจ้าของเท่านั้น (คนส่วนมากยังเข้าใจว่าทานคือการให้สิ่งของเพียงอย่างเดียว) แต่ทานนั้นยังหมายการให้สิ่งอื่น ๆ ด้วย การให้ธรรมเป็นทาน การให้ความรู้เป็นทาน การให้เลือดเนื้อร่างกายเป็นทาน ในที่นี้ผู้เขียนขอยกตัวอย่างของพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญในชาติสุดท้าย (ชาติที่สิบในการบำเพ็ญทัศบารมี) ซึ่งครั้งนั้นพระองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรที่ทรงสละได้แม้กระทั่งชีวิต และให้ทานพระโอรส พระธิดารวม 2 พระองค์ให้แก่ชูชก ทั้งยังจะมอบพระนางมัทรีให้แก่ท้าวสักกะที่แปลงองค์เป็นพราหมณ์ มาขอรับบริจาคพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็ทรงปิติยินดีที่จะได้ประกอบทารทาน (ทา-ระ-ทาน คือการให้ภรรยาเป็นทาน) เพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น เครดิตภาพจาก pixabay.com หลายท่านอาจจะแปลกใจว่าแบบนี้มีอยู่ในโลกด้วยหรือ ให้ลูกเป็นทาน ให้เมียเป็นทาน ขอตอบครับนี้หละครับคือ การสั่งสมบารมีของพระโพธิสัตว์เพื่อเตรียมที่จะบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณในชาติต่อมาอันนี้หละครับคือ คำว่า ทาน ต่อมากับคำถามที่ว่าจุดมุ่งหมายของการให้ทานคืออะไร คำตอบ : จุดมุ่งหมายของการให้ทานตามหลักพระพุทธศาสนามีอยู่ 3 ประการด้วยกัน ผู้เขียนพอสรุปได้ดังนี้ครับ 1. เพื่อสั่งสมบุญ ใช่ครับอันนี้เพื่อเป็นการสั่งสมหรือสะสมบุญ (สิ่งที่เป็นกุศลหรือความดี) เพราะการให้ทานนั้นเป็นบุญหนึ่งในสามประการที่มีในพระพุทธศาสนา คือ ทาน ศีล ภาวนา หากบุคคลใดฝักใฝ่ในทางทานผลบุญหรือความดีเหล่านี้ก็จะสั่งสมติดตัวไปทั้งชาตินี้ ชาติหน้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญ ความก้าวหน้าทั้งในทางโลก และทางธรรม เป็นต้น 2. การให้เพื่อบูชาคุณ คือ การบูชาคุณของบิดามารดา คุณของครูบาอาจารย์ คุณของพระพุทธเจ้า คุณของธรรม-พระสงฆ์ เหล่านี้เป็นต้น ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ การให้เพื่อบูชาคุณ เช่น เวลาเราไปวัดเรามักจะเห็นเขาจุดตะเกียงบูชาพระบรมธาตุหรือเจดีย์ต่าง ๆ เหล่านี้ เราเห็นก็มักจะพากันไปซื้อน้ำมันมาเติมตะเกียงไม่ให้ดับ สว่างลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้หละครับเรียกว่าการให้เพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า เป็นต้น (อานิสงส์ของการเติมน้ำมันตะเกียง คือ จะทำให้ชีวิตพบแต่ความสว่างไสว มีแต่ความสุข ความเจริญ) เป็นต้น 3. เพื่อสงเคราะห์หรืออนุเคราะห์ คือ การให้เพื่อสงเคราะห์ญาติ พี่ น้อง หรือบุคคลผู้ที่ขาดแคลนหรือต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ อื่น ๆ เหล่านี้เมื่อเขาตกทุกข์ได้ยากแล้วเรามีจิตใจเมตตา และอยู่ในสถานะที่สามารถให้ความช่วยเหลือเขาเหล่านั้นได้เหล่านี้คือ การสงเคราะห์อานิสงส์หรือผลบุญที่จะเกิดคือไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะมีแต่ความสุข ข้าทาสบริวาร กัลยาณมิตรแวดล้อมไม่ได้ขาด เป็นต้น เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) เห็นไหมหละครับนี้ คือทาน และจุดมุ่งหมายของการให้ทานหากให้ทานแล้วอย่างลืมตั้งจิตอธิษฐาน (เน้นการสร้างบารมีที่สูงขึ้น) เหมือนคำว่า “อิทัง เม ทานัง อาสวักขยาวหัง โหตุ ขอทานนี้ของข้าพเจ้า จงเป็นไปเพื่อการสิ้นอาสวะ นิพพานปัจจโย โหตุ จงเป็นปัจจัยเพื่อนิพพาน”..... สำหรับวันนี้ธรรมะสวัสดีครับ