วิธีอ่านหนังสือให้เข้าสมอง จดจำได้ดีแบบไม่เหนื่อยไม่ล้านั้นถือเป็นสิ่งที่นักเรียนนักศึกษาทุกคนอยากจะรู้กันมากที่สุดใช่ไหมล่ะคะ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องเตรียมตัวสอบบอกเลยว่าเครียดหนักมาก เนื้อหาก็เยอะจนอ่านไม่ทัน แย่กว่านั้นคือส่วนที่อ่านทันก็ดันไม่มีประสิทธิภาพ อ่านแล้วเหมือนไหลทะลุสมองไปเลย เท่ากับว่าเราเสียเวลาอดหลับอดนอนไปอย่างเสียเปล่า วันนี้ Sunnysister Studio ก็เลยอยากมาแชร์เทคนิคการอ่านหนังสือที่ใช้ได้ดีมาก ช่วยให้เราโฟกัสดีขึ้น ไม่เหนื่อย สามารถอ่านต่อกันได้แบบชิลล์ ๆ ด้วยรับรองว่าถูกใจแน่นอนPomodoro Technique วิธีอ่านหนังสือยอดฮิตคืออะไร?วิธีอ่านหนังสือด้วย Pomodoro Technique มีที่มาจากนักศึกษาชาวอิตาเลียน ชื่อว่า ท9สในปี 1980 ที่เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีโฟกัส ชอบทำอะไรแปปเดียวก็เสียสมาธิ ยิ่งเรื่องการอ่านหนังสือสอบให้ได้คะแนนดียิ่งเป็นเรื่องยาก เพราะเขาจดจ่อกับอะไรไม่ได้นาน นั่นทำให้เขาเริ่มทดลองเทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมสอบด้วยการจับเวลาสั้น ๆ เพียง 10 นาทีก่อนแล้วสัญญากับตัวเองว่าจะโฟกัสกับสิ่งที่ทำให้มากที่สุด จนผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าพึงพอใจ คือ เขาสามารถอ่านหนังสือได้จนจบโดยที่ไม่มีอาการเหนื่อยล้าของสมอง เมื่อเทียบกับการอ่านแบบปกติ เขาตั้งชื่อเทคนิคที่ค้นพบนี้ว่า Pomodoro Technique ซึ่งคำว่า Pomodoro ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า “มะเขือเทศ” นั่นเองนอกจากเป็นวิธีอ่านหนังสือให้ได้นาน ๆ แล้ว ใช้ทำอะไรได้อีก?วิธีอ่านหนังสือด้วย Pomodoro Techniqueนั้นช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งตรงหน้าได้มากขึ้น ซึ่งนอกจากเป็นวิธีอ่านหนังสือแล้วไม่ง่วงแล้วเรายังสามารถประยุกต์กับงานได้หลากหลาย เช่นการเขียนรายงานการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ การทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนร่วมทีม หรือทำโปรเจกต์ร่วมกันการเขียนบทความการทำงานเชิงสร้างสรรค์ เช่น การวาดภาพ, การปั้นงาน, การทำกราฟิกโดยทั่วไปแล้ว การใช้ Pomodoro Technique เหมาะสมกับงานที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ และมีการต้องตั้งความตั้งใจในการทำงานในช่วงเวลานาน ๆ การใช้ Pomodoro Technique ยังช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความเหนื่อยล้าจากการทำงานนาน ๆ ด้วยวิธีอ่านหนังสือด้วย Pomodoro Technique มีขั้นตอนอะไรบ้าง?วิธีอ่านหนังสือด้วยเทคนิคโพโมโดโร่นั้น สามารถทำเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ได้ดังนี้1. เลือกงานที่จะทำให้สำเร็จ เราสามารถเลือกได้เลยว่าอยากทำอะไรให้เสร็จ เช่น อ่านหนังสือเตรียมสอบ, ทำการบ้าน, ทำงานค้าง, ทำโปรเจกต์ ไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ก็ได้ 2. ตั้งเวลาถอยหลัง 25 นาทีให้สัญญากับตัวเองว่าจะโฟกัสกับงานตรงหน้าให้ดี ไม่วอกแว่ก แม้จะมีการแจ้งเตือนจากมือถือถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญก็จดเรื่องนั้นเอาไว้ทำทีหลัง เพื่อให้งานตรงหน้ามีประสิทธิภาพสูงสุด3. จดจ่อกับเวลา 25 นาทีให้ดีที่สุดพยายามโฟกัสกับงานตรงหน้า โดยไม่จำเป็นต้องเครียดเกินไปก็ได้ เพราะจะทำให้สมองล้าได้ ถือเป็นวิธีอ่านหนังสือให้ไม่เบื่อที่ดีมาก ๆ 4. เมื่อสัญญานาฬิกาดังขึ้นให้ติ้กถูกไว้การติ้กถูกเหมือนกับการเช็คกับตัวเองว่าเราทำงานหรือสิ่งที่ต้องการทำได้สำเร็จแล้วในระยะเวลาที่เราตั้งใจเอาไว้5. พักเบรกสั้น ๆ 5 นาทีในแต่ละช่วงการทำงานให้พักเบรกสั้น ๆ ประมาณ 5 นาที แนะนำว่าควรรีแลกซ์ให้มาก เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ให้ทำอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน แล้วสมองของคุณจะรู้สึกดีมาก ๆ 6. เมื่อทำ Pomodoro เทคนิคครบ 4 รอบ พักยาว 30 นาทีเมื่อเราทำงานติดต่อกันได้ 4 ลูกมะเขือเทศแล้วให้พักยาว ๆ 30นาที ได้เลยจะช่วยรีเฟรเฟรชให้รู้สึกสดชื่นก่อนไปทำงานต่อได้วิธีอ่านหนังสือให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดวิธีอ่านหนังสือด้วยการใช้เทคนิคมะเขือเทศนั้น นอกจากทำแบบพื้นฐานแล้ว เรายังสามารถบูสต์ประสิทธิภาพของเทคนิคได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้1. กำหนดว่าจะใช้มะเขือเทศกี่ลูกวิธีอ่านหนังสือให้ดียิ่งขึ้นคือรู้จักว่าเราจะใช้เวลากับแต่ละบทเรียนหรือแต่ละงานประมาณเท่าไร ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เราประเมินภาพรวมของการอ่านได้ชัดขึ้น2. กำจัดสิ่งรบกวนออกให้หมดการเลิกใช้มือถือหรือแท็บเล็ตไปเลยช่วงอ่านหนังสือ ถือเป็นเทคนิคอ่านหนังสือยังไงให้สอบติดที่เหล่ารุ่นพี่แนะนำกันมากที่สุด เนื่องจากภายในมือถือจะเต็มไปด้วยสิ่งเย้ายวนใจ รวมถึงเสียง Notification จากแอปต่าง ๆ ที่ทำให้เราอยากจะเข้าไปเปิดมันดู แม้ว่าบางคนอาจคิดว่า เอาน่า…ดูแค่แปปเดียวเองไม่เป็นไรหรอก นั่นคือเราหลงกลเรียบร้อยแล้ว เพราะคำว่าขอดูนิดหน่อยไม่มีอยู่จริงจ้า นิดหน่อย = ชั่วโมงหนึ่ง ทางที่ดีที่สุด ควรลดละเลิกเล่นมือถือในช่วงที่ต้องอ่านหนังสือหรือทำงานน้า3. หัดประเมินสิ่งที่ต้องทำต่อไปเมื่อเราอ่านจบบทหนึ่ง หรือทำงานเสร็จอย่างหนึ่งแล้ว ให้เราลองประเมินดูว่างานต่อไปเราน่าจะใช้เวลาเท่าไร จะช่วยให้เทคนิคการอ่านหนังสือเวลาน้อยนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งท้ายวิธีอ่านหนังสือที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่การหาวิธีอ่านหนังสือไม่ให้ง่วงเพียงอย่างเดียว หรือการหาวิธีอ่านหนังสือได้นานเท่านั้น แต่หัวใจของการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบคือเราเข้าใจเนื้อหาที่อ่านไปมากน้อยแค่ไหน อยากฝากทุกคนว่าเราไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองให้อ่านให้ได้นานเท่าเพื่อน ๆ หรืออ่านได้หลายเล่มกว่าเพื่อน ๆ น้า สิ่งที่ต้องสนใจคือเราจดจำและเข้าใจเนื้อหาได้มากแค่ไหนต่างหาก เพราะถ้าเราอ่านนานจริง อ่านอึดจริงแต่จำอะไรไม่ได้เลยก็เท่ากับเสียเปล่า ไม่ต้องเครียด ค่อย ๆ อ่านไป เหนื่อยก็พักบ้าง รวมถึงคนที่กำลังทำงานควรรู้จักจัดเวลาให้ตัวเองมีพักผ่อนกันด้วยนะคะ อย่าหักโหมเกินไปล่ะ เพราะอย่างไรสุขภาพของเราก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุดน้าบทความแนะนำที่ไม่อยากให้พลาดhttps://intrend.trueid.net/post/276197ขอบคุณภาพหน้าปกภาพที่1: freepikภาพจาก Canvaภาพที่2: @azza-studiosภาพที่3: @trendifyภาพที่4: @cloverlittleworldภาพที่5: @pixabayภาพที่6: @mizjoyfulภาพประกอบทั้งหมดโดย Sunnysister StudioHASHTAG#เทคนิคอ่านหนังสือ #เทคนิคสอบ #dek66 #dek67 #tcas #dek68 #กสพท #เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย #สอบเข้ามหาวิทยาลัย #studygram #เด็กซิ่ว เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !