โพลชี้ชาวอเมริกันจำนวนมาก สูญสิ้นศรัทธา 'ศาสนา'
นิวยอร์ก, 21 เม.ย. (ซินหัว) -- บทความจากเดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส สื่อสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจค่านิยมอันหลากหลายของชาวอเมริกัน รวมถึงความสำคัญของศาสนา พบผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 39 ระบุว่าศาสนามีความสำคัญกับพวกเขามาก ซึ่งลดลงจากร้อยละ 62 ในปี 1998
การสำรวจดังกล่าวร่วมจัดทำโดยเดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล และองค์กรวิจัยทางสังคมนอร์ก (NORC) แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก ได้สอบถามความคิดเห็นประเด็นข้างต้นจากผู้ใหญ่ชาวอเมริกันประมาณ 1,000 คน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
บทความระบุว่าภาพรวมดูซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย หากพิจารณาผลสำรวจทั้งหมด โดยผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 60 บอกว่าศาสนาค่อนข้างสำคัญหรือสำคัญมากกับพวกเขา และมีเพียงร้อยละ 19 ที่บอกว่าศาสนาไม่สำคัญกับพวกเขาเลย
มาร์ค ชาเวส อาจารย์ด้านสังคมวิทยาแห่งสำนักวิชาดยุก ดีวินิตี ของมหาวิทยาลัยดุก ซึ่งดูแลการศึกษาผู้มีศรัทธาความเชื่อแห่งชาติ ชี้ว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีความศรัทธาในศาสนา ขณะเดียวกันการศรัทธาในศาสนาอาจกำลังเสื่อมถอยลงในมิติต่างๆ ด้วยอัตราที่แตกต่างกัน
ข้อมูลจากนอร์กระบุว่าผู้ไม่ศรัทธาในศาสนาหรือพระเจ้าครองสัดส่วนเพียงร้อยละ 2-3 ของประชากรช่วงปี 1988-2012 และขยับขึ้นเป็นร้อยละ 7 ของประชากรในปี 2021 ขณะสัดส่วนชาวอเมริกันที่ไม่เคยเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาเลยในปี 2021 อยู่ที่ร้อยละ 31 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 17 ในปี 1988
อิซาเบลลา คาสเซิลสตรันด์, ฟิล ซัคเคอร์แมน และไรอัน ครากัน กลุ่มนักเขียนที่เตรียมปล่อยหนังสือ "ก้าวพ้นความสงสัย : โลกิยานุวัติของสังคม" (Beyond Doubt: The Secularization of Society) ระบุว่าแต่ละปีสหรัฐฯ มีโบสถ์ปิดตัวลงราว 6,000-10,000 แห่ง ถูกเปลี่ยนเป็นอพาร์ตเมนต์ ร้านซักรีด สนามยิงปืนเลเซอร์ ลานสเก็ต หรือถูกรื้อถอน