ไบเดนสั่งสืบต้นตอโควิดใน 90 วัน เฟซบุ๊กลั่นเลิกลบโพสต์โยง “ไวรัสคนสร้าง”
ไบเดนสั่งสืบต้นตอโควิดใน 90 วัน - วันที่ 27 พ.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้หน่วยงานฝ่ายข่าวกรองเร่งสอบสวนหาต้นตอของ โรคโควิด-19 ไม่กี่วันหลังจากวอลสตรีทเจอร์นัลระบุอ้างอิงจากเอกสารหน่วยข่าวกรองสหรัฐว่า นักวิจัย 3 คนของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (ดับเบิลยูไอวี) ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน เข้ารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลเมื่อเดือนพ.ย.2562
ก่อนพบการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ต่อมาเรียกว่าไวรัสโควิด-19 และผ่านมากว่าปีครึ่งที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตไวรัสร้าย กับจำนวนผู้ป่วยสะสมมากกว่า 169 ล้านคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 3.5 ล้านราย
จากแถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ขอรายงานเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง และในเดือนนี้นายไบเดนได้ขอรายงานติดตามผลการสอบสวนเพิ่มเติม
"วันนี้หน่วยข่าวกรองสหรัฐได้เชื่อมโยงสถานการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้ 2 สถานการณ์ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปชี้ชัดต่อคำถามที่ว่าโรคโควิด-19 เกิดจากการที่มนุษย์สัมผัสกับสัตว์ติดเชื้อหรือเป็นอุบัติเหตุในห้องปฏิบัติการ” นายไบเดนกล่าว และว่ามี 2 องค์ประกอบที่ชุมชนข่าวกรอง (ไอซี) มีความเห็นโน้มเอียงถึงความเป็นไปได้ ส่วนหนึ่งให้น้ำหนักเชื่อถือข้อสันนิษฐานก่อนหน้านี้ อีกส่วนเอนเอียงไปที่ข้อสันนิษฐานในภายหลังมากกว่า
แต่ทั้งสององค์ประกอบยังเป็นความเชื่อมั่นในเกณฑ์ต่ำหรือปานกลางเท่านั้น และนั่นทำให้นายไบเดนต้องสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มความพยายามในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่จะทำให้เข้าใกล้บทสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น โดยมีกรอบเวลากำหนดให้รายงานความคืบหน้าภายใน 90 วัน รวมทั้งขอให้สภาคองเกรสอนุมัติการทำงานในส่วนนี้อย่างเต็มที่ต่อไป
นอกจากนี้นายไบเดนยังย้ำว่าสหรัฐจะทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันทั่วโลกเพื่อกดดันให้จีนเข้าร่วมการสอบสวนระหว่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โปร่งใส สามารถเข้าถึงข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้
ก่อนหน้านี้ นายซาเวียร์ เบเซอร์รา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐ เรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ดำเนินการตรวจสอบต้นตอไวรัสอย่างโปร่งใส
“การระบาดของโรคโควิด-19 ไม่เพียงขโมยชีวิตของเราไปหนึ่งปี แต่ยังขโมยชีวิตคนไปนับล้าน” นายเบเซอร์รากล่าวในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และว่าการศึกษาต้นกำเนิดของโควิด-19 ในระยะ 2 ต้องเดินหน้าด้วยเงื่อนไขที่โปร่งใส เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ และให้อิสระเต็มที่แก่ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศในการประเมินแหล่งที่มาของไวรัส"
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค.2564 องค์การอนามัยโลกออกรายงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จีนเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโรคโควิด-19 ว่าโอกาสที่เชื้อดังกล่าวจะมาจากห้องทดลองนั้นไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง แต่ระบุว่าจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมคือ
วันเดียวกัน โฆษกเฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก ระบุว่าในแง่ของการสืบสวนอย่างต่อเนื่องถึงที่มาของโควิด-19 และจากการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขแล้ว เฟซบุ๊กจะไม่ลบข้อความซึ่งอ้างถึงโควิด-19 ว่าเป็นไวรัสที่มนุษย์สร้างขึ้น ออกจากแฟลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก
รอยเตอร์รายงานผลศึกษาประสิทธิภาพพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทเภสัชกรรมแห่งชาติจีนหรือซิโนฟาร์ม โดยสมาคมการแพทย์อเมริกัน (เอเอ็มเอ) เปิดเผยผ่านวารสารของสมาคมว่า ผลการศึกษาข้อมูลจากผู้ติดโควิด-19 มีอาการ 142 คน จากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 40,000 คน โดย 26 คนรับวัคซีนที่พัฒนาโดยซิโนฟาร์มในเมืองอู่ฮั่น และ 21 คนรับวัคซีนซิโนฟาร์มที่พัฒนาโดยสถาบันในกรุงปักกิ่ง
ปรากฏว่าวัคซีนทั้งสองตัวของมีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสมรณะสูงกว่าร้อยละ 70 โดยวัคซีนซิโนฟาร์มในเมืองอู่ฮั่นพบว่าอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนครบ 2 โดส จะมีประสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 ที่ร้อยละ 72.8 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 72.5 ที่บริษัทแถลงไปเมื่อเดือนก.พ. ส่วนวัคซีนซิโนฟาร์มจากกรุงปักกิ่ง และเพิ่งผ่านการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลกให้ใช้เป็นการฉุกเฉินได้นั้น มีประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 78.1