Stablecoin คืออะไร? เปิดโลกเงินดิจิทัลที่มูลค่าคงที่เทียบสกุลเงินจริง

#Stablecoin #ทันหุ้น - Stablecoin คือสกุลเงินดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่มีมูลค่าคงที่ โดยจะอ้างอิงราคากับสกุลเงินเฟียต เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการที่จะผลิต Stablecoin ออกมาได้ จะต้องมีสกุลเงินอ้างอิงหรือตราสารทางการเงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล หนุนหลัง 100%

อย่างไรก็ตาม ยังมี Stablecoin อีกรูปแบบที่สร้างขึ้นจากสินทรัพย์อ้างอิง ด้วยรูปแบบของเทคโนโลยีการเงินแบบกระจายศูนย์ หรือ DeFi เช่น การนำสินทรัพย์ดิจิทัลหรือโทเคนมาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือรูปแบบที่มีสกุลเงินเฟียตหนุนหลัง

การใช้งานของ Stablecoin หลัก ๆ จะใช้เป็นคู่ซื้อขายกับเหรียญคริปโตต่าง ๆ เช่น บิทคอยน์คู่กับ Stablecoin อย่าง BTC/USDT ผู้ที่ถือครอง Stablecoin ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เปรียบเสมือนกับการถือเงินสดไว้ในมือ

อีกรูปแบบหนึ่งคือการใช้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การโอนเงินระหว่างกระเป๋าเงินดิจิทัล เนื่องจาก Stablecoin มีมูลค่าคงที่ จึงเหมาะสมกับการนำมาใช้แทนสกุลเงินเฟียต นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการชำระเงินได้อีกด้วย

จุดเด่นของ Stablecoin คือความเร็วในการทำธุรกรรมที่สูงกว่าระบบการเงินเดิม รวมถึงมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะการนำมาใช้สำหรับโอนเงินระหว่างประเทศ

ปัจจุบันมีบริษัทผู้พัฒนา Stablecoin รายใหญ่คือ Tether เจ้าของเหรียญ USDT ที่มีมาร์เก็ตแชร์สูงสุด รองลงมาคือบริษัท Circle เจ้าของเหรียญ USDC ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัทด้านการเงินที่ผลิต Stablecoin ของตัวเอง เช่น PayPal ที่สร้างเหรียญ PYUSD

หลายประเทศทั่วโลกเริ่มมีกฎหมายที่รับรองการออก Stablecoin ที่มีสกุลเงินเฟียตหนุนหลัง เช่น สิงคโปร์และสหภาพยุโรป ล่าสุด ฮ่องกงและเกาหลีใต้ได้เดินหน้าผ่านกฎหมายดังกล่าวออกมาเช่นกัน

แต่ที่น่าจับตามากที่สุดคือกฎหมาย GENIUS Act ของสหรัฐฯ ที่เพิ่งผ่านการรับรองในชั้นสภาสูง และกำลังส่งต่อไปยังสภาล่าง หากได้รับการอนุมัติ สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่รับรองการออก Stablecoin อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้การเติบโตของตลาดคริปโตเป็นไปอย่างก้าวกระโดด

ส่วนประเทศไทยกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ ผ่านโครงการ Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย หากไม่มีปัญหา ประเทศไทยก็จะสามารถออก Stablecoin ที่มีเงินบาทหนุนหลังได้ โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ขอรับใบอนุญาต