เราเคยพยายามจะ “เปลี่ยนใครบางคน” กันไหม? บางทีเราอยากให้เขาเลิกนิสัยบางอย่าง อยากให้เขาเข้าใจเรามากขึ้น หรืออยากให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่ “การเปลี่ยนแปลง” แต่อาจกลายเป็น “ความตึงเครียด” ระหว่างกันแทน ยิ่งเราพยายามพูด ยิ่งอธิบาย ยิ่งชี้ให้เห็นสิ่งที่เขาควรทำเท่าไหร่ มันกลับยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกบังคับ ถูกตัดสิน หรือถูกจับผิดอยู่ตลอดเวลา การพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่น มักไม่ได้เกิดจากความตั้งใจไม่ดี แต่เพราะเรารู้สึกว่า “เรารู้แล้วว่าอะไรดีที่สุด” สำหรับเขา เราจึงพยายามผลักดันเขาให้เดินไปในทิศทางนั้น แต่ความจริงคือ คนเราจะไม่เปลี่ยนเพราะแรงกดดันจากภายนอกหรอก ต่อให้เราพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีแค่ไหน หรือใช้เหตุผลที่ดูสมบูรณ์แบบขนาดไหน มันก็ยังเป็น “แรงจากข้างนอก” ที่ไปชนกับ “แรงต่อต้าน” ข้างในของอีกฝ่ายอยู่ดี และสุดท้าย…ก็เกิดแรงเสียดทาน บางครั้งเราไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่ “ท่าทางเล็ก ๆ” เช่น การถอนหายใจ การกลอกตา หรือแม้แต่การเงียบใส่ ก็กลายเป็นสัญญาณที่ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกผิด หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ สิ่งเหล่านี้อาจมาจากความหวังดีของเรา แต่เมื่อมันแปลออกมาในภาษาของความรู้สึก มันกลับแปลว่า “ฉันไม่ยอมรับในแบบที่เธอเป็น” และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาต่อต้านโดยอัตโนมัติ ไม่มีใครอยากเปลี่ยนตัวเองเพียงเพื่อให้ใครบางคนพอใจ เพราะมันไม่ใช่แรงจากข้างใน สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด คือ “เปลี่ยนวิธีมอง” มากกว่าพยายาม “เปลี่ยนคนอื่น” เมื่อเราเลิกยัดเยียดให้ใครต้องเปลี่ยน เรากำลังคืนพื้นที่ให้เขาได้คิด ได้รู้สึก และได้เลือกจะเปลี่ยนด้วยตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ไม่ได้เกิดจากแรงบังคับ แต่เกิดจากการตระหนักรู้และอยากเติบโตด้วยใจของเขาเอง และบางที การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง…อาจเริ่มจาก “เรา” ก่อนก็ได้ จากการเรียนรู้ที่จะรับฟังโดยไม่ตัดสิน จากการยอมรับโดยไม่พยายามควบคุม และจากการเข้าใจว่า “ความสัมพันธ์ที่ดี” ไม่ได้เกิดจากการทำให้ใครเหมือนเรา แต่มันเกิดจากการที่เรายังอยู่ด้วยกันได้…แม้เราจะต่างกันก็ตาม ภาพปกและภาพประกอบโดย: ผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !