‘โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวงโอ้ว่าดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นห่วงรักเจ้าดวงเดือนเอย’เสียงดนตรีบรรเลงเพลง ‘ลาวดวงเดือน’ แว่วดังมาจากอาคารไม้ 2 ชั้นหลังเก่าที่ได้รับการบูรณะมาเป็นอย่างดี ‘บ้านดนตรี’ แหล่งประสิทธิประสาทวิชาดนตรีไทยแก่เด็กและเยาวชนที่ผ่านมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ภาพถ่ายโดยผู้เขียนจังหวัดสมุทรสงคราม โดยเฉพาะอำเภออัมพวานั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองดนตรีไทยมาอย่างยาวนาน อีกทั้งรัชการที่ 2 ‘สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย’ พระองค์มีความสนใจในดนตรีไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งบ้านเดิมของพระองค์นั้นอยู่ที่อำเภออัมพวาแห่งนี้เช่นกัน ดังนั้นทำให้คนที่นี่มีความรักและหวงแหนอยากรักษาศิลปะวิทยาของด้านดนตรีไทยไว้ เพื่อให้ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา‘บ้านดนตรี วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จังหวัดสมุทรสงคราม’ สถานที่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อ ให้ความรู้ทางด้านดนตรีแก่เยาวชนและผู้ที่มีความสนใจในดนตรีไทย เพื่อให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการช่วยสืบทอดวิชาดนตรีไทยอันเป็นมรดกของชาติไทยอีกด้วย และสามารถมานำความรู้ทางด้านดนตรีของตนไปประยุกต์ใช้ในเกิดประโยชน์ซึ่งบางคนสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้อีกด้วย ภาพถ่ายโดยผู้เขียนการเรียนการสอน‘บ้านดนตรี’เปิดสอนดนตรีไทยหลากหลายชนิด เช่น ซออู้ ซอด้วง จะเข้ ขิม อีกทั้งยังมีการสอนระนาดไม่ว่าจะเป็นระนาดเอกหรือระนาดทุ้ม ฆ้องวงเล็ก ฆ้องวงใหญ่ ซึ่งการเรียนดนตรีของที่นี่นั้นผู้เรียนสามารถเลือกเรียนตามความสนใจและความถนัด ว่าต้องการเรียนเครื่องดนตรีชนิดใด ในวันจันทร์ถึงศุกร์ที่นี่เปิดสอนให้แก่นักเรียนโรงเรียนต่าง ๆ ในอำเภออัมพวานำนักเรียนมาเรียนดนตรีไทยที่นี่ ซึ่งบุคคลภายนอกบ้านดนตรีจะเปิดทำการเรียนการสอนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยอาจารย์ผู้สอนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านดนตรีไทยโดยเฉพาะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียนการสมัครเรียน การเรียนการสอนของที่นี่เปิดสอนให้แก่เด็กและเยาวชนและผู้ที่สนใจทั่วไปโดยไม่จำกัดอายุ ซึ่งสามารถติดต่อทำการสมัครเรียนได้ที่บ้านดนตรีโดยตรง โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอนเพียง 500 บาท/20ครั้ง (ครั้งละ 3 ชั่วโมง)